ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) ขานรับข่าวที่ว่าสหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,649.78 จุด เพิ่มขึ้น 146.97 จุด หรือ +0.53% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,112.76 จุด เพิ่มขึ้น 19.56 จุด หรือ +0.63% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,566.67 จุด เพิ่มขึ้น 46.03 จุด หรือ +0.54%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐและจีนกำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก แม้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายประสบความตึงเครียดเกี่ยวกับกรณีของฮ่องกงและซินเจียง
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของสหรัฐซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยว่า คณะเจรจาการค้าของสหรัฐมีความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนที่สหรัฐมีกำหนดเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 15 ธ.ค. นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่า การที่สภาคองเกรสสหรัฐออกกฎหมายคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนในกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและซินเจียง ไม่มีผลกระทบต่อการเจรจาการค้า
สอดคล้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) วานนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังดำเนินไปอย่างดีมาก ซึ่งท่าทีดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์สวนทางกับที่เขาได้ส่งสัญญาณเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า
ข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าของทั้งสองประเทศได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 4%