ธปท.ชี้ แนวโน้มบาทอ่อน

04 ธ.ค. 2562 | 11:06 น.

ธปท.ส่งสัญญาณ ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าจากที่ผ่านมาแข็งค่าเกินปัจจัยพื้นฐาน

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ค่าเงินของภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง เพราะนักลงทุนในตลาดโลกเปลี่ยนมุมมองในทิศทางค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงเงินบาทด้วย จึงเห็นว่า ช่วงหลังค่าเงินบาทค่อนข้างนิ่งและจะมีทิศทางที่กลับทิศแล้ว ซึ่งไม่ได้มาจาก ธปท.เข้าไปแทรกแซง แต่เป็นการคาดการณ์ของตลาดเองที่มองว่า เงินบาทจะไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้

ธปท.ชี้ แนวโน้มบาทอ่อน

"ถ้าไปดูโพซิชั่นของนอนเรสซิเดนซ์ จากเดิมที่เคย long ค่าบาท ก็เริ่มกลับ Short ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ จะเห็นว่า แรงกดดันดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มลดลง การเกินดุลมีแนวโน้มลดลง ส่วนผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา แม้จะไม่มีผลต่อค่าเงินบาทโดยตรง แต่ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของทิศทางค่าเงินบาทในช่วงต่อไป"

ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ (yield curve)ของไทยยังต่ำกว่าสหรัฐและเกือบจะต่ำที่สุดในเอเชีย ทำให้แรงดึงดูดที่จะเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินน้อยลง โดยจะเห็นว่า ทั้งปีการไหลเข้าของเงินที่เข้ามาลงทุนในหุ้นและพันธบัตรเป็นการไหลออกสุทธิ จึงไม่ได้เป็นเรื่องของการเข้ามาเก็งกำไร นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของผู้ส่งออกนำเงินเข้ามาจากการเกินดุล รวมถึงการท่องเที่ยวที่ยังค่อนข้างเยอะ ซึ่ง ธปท. ก็ได้ผ่อนคลายให้ผู้ส่งออกแล้ว ก็คงจะนำเงินเข้ามาไม่มาก ก็จะลดแรงกดดันค่าเงินไปได้อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ธปท. ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทมาโดยตลอด ซึ่งช่วงก่อนหน้าก็ยังไม่มั่นใจว่า ค่าเงินบาทจะกลับทิศทางหรือไม่ แต่ตอนนี้มีความชัดเจนมากขึ้น สอดคล้องกับนักวิเคราะห์หลายสำนัก ก็คิดว่าโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงมีมากขึ้น ส่วนค่าบาทจะอ่อนลงไปถึง 32-33 บาทนั้นเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก แต่เคลื่อนไหวในทางอ่อนค่านั้นโอกาสจะมีมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นแนวโน้มในตลาดขณะนี้ คาดการณ์ไม่ได้ว่า บาทจะมีทิศทางแข็งค่าข้างเดียวเหมือนในอดีตแล้ว จึงมีผู้แนะนำให้ผู้นำเข้าต้องทำประกันความเสี่ยง ไม่ใช่รอค่าเงินแข็งแล้วค่อยไปทำ เพราะหากมีการเปลี่ยนทางแรงขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องเสียโอกาส

ธปท.ชี้ แนวโน้มบาทอ่อน

"เงินบาทแข็งค่าถึงจุดสูงสุดแล้วหรือไม่ อาจจะยังบอกไม่ได้ แต่ค่าเงินมีทิศทางการเคลื่อนไหว 2 ทิศทางมากขึ้น ไม่ใช่ทางเดียวเหมือนในอดีต เป็นไปตามบทวิเคราะห์ของหลาย ๆ ฝ่าย ที่มองว่าตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะค่าเงินบาทจะไม่ Safe Heaven เหมือนในอดีต ดูจากภาพรวมค่าเงินบาทก็แข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานไปค่อนข้างเยอะแล้ว ซึ่งนักลงทุนก็เริ่มคิดได้ว่าถ้าลงทุนในประเทศที่ค่าเงินแข็งไปทำไม เพราะโอกาสถูกตีกลับก็จะมีเยอะ" นายเมธี กล่าว

ทั้งนี้ เหตุผลที่นักลงทุนต่างชาติมองว่า ไม่ควรลงทุนในเงินบาท เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ลดลง ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่แทบจะไม่มีแล้ว และเห็นว่า อาจจะลงทุนในบาทมากเกินไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งท่าทีของ ธปท. ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน แต่แนวโน้มค่าเงินบาทที่มีการอ่อนค่าลงก็ยังไม่น่าจะช่วยเรื่องการส่งออกได้มากนัก แต่อย่างน้อยก็จะช่วยให้ผู้ส่งออกมองทิศทางในอนาคตว่าค่าเงินบาทสามารถเคลื่อนไหวในลักษณะที่อ่อนตัวลงได้มากขึ้น