บัวหลวงคัด LTF-RMF เด่น เสิร์ฟนักลงทุน

04 ธ.ค. 2562 | 07:30 น.

บล.บัวหลวง คัดกองทุน LTF-RMF ผลงานเด่น เสิร์ฟนักลงทุนรับตลาดผันผวน ชี้กองทุน SSF ดีต่อการออมเงินระยะยาว 

นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการ ส่วนงานค้าตราสารหนี้และหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ช่วงโค้งท้ายปี 2562 ต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2563 ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนจากปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงการประท้วงในฮ่องกงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน ฉะนั้นถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF)และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)ที่มีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอ

บัวหลวงคัด LTF-RMF เด่น เสิร์ฟนักลงทุน

ทั้งนี้ LTF ถือเป็นปีสุดท้ายที่สามารถลงทุน เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เราคาดว่า นักลงทุนยังคงใช้สิทธิ์ เพื่อรับผลประโยชน์ทางภาษีต่อเนื่อง เพราะการลงทุนในกองทุนรวมให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและยังเป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่ดี ท่ามกลางตลาดผันผวน ซึ่งจากสถิติพบว่า นักลงทุนมากกว่าครึ่งที่ถือลงทุนกองทุนรวมจนครบเงื่อนไข ส่วนใหญ่จะถือและลงทุนต่อ ฉะนั้นในปีนี้แนะนำให้ลงทุนเต็มสิทธิ์ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปีหรือไม่เกิน 5 แสนบาท

ส่วนกองทุนรวมเพื่อการออมหรือ Super Savings Fund(SSF)ที่มาทดแทน LTF เชื่อว่า จะส่งผลดีในด้านการออมเงิน โดยเฉพาะผู้มีรายได้ไม่เกิน 1.66 ล้านบาทต่อปี เพราะสามารถใช้สิทธิ์ได้มากขึ้น หลังขยายวงเงินลงทุนสูงสุดใน SSF เป็นไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท จากเดิมที่ซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท แต่การกำหนดให้นำวงเงินลดหย่อนของการลงทุนเพื่อการออมทุกประเภทมารวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาทในแต่ละปีภาษีจากเดิม 1 ล้านบาท อาจทำให้เม็ดเงินลงทุนโดยรวมเข้าตลาดลดลง เพราะ SSFลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องลงทุนหุ้นอย่างเดียว 

 

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนกองทุนรวมช่วงตลาดผันผวนแนะนำให้ลงทุนในกองทุน LTF ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีค่าความผันผวนต่ำ หรือ Low Volatility ที่มีชื่อว่ากองทุนเปิดแอล เอเช สแทรทิจี อิควิตี้ หุ้นระยะยาว (LHSTGLTF-A)ซึ่งเป็นกองทุนที่เลือกลงทุนในหุ้นปลอดภัย (Defensive Stocks)ที่จ่ายเงินปันผลดี และมีความผันผวนต่ำ โดยผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 2562 ถึงวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาอยู่ระดับ 10.01% เมื่อเทียบตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2%

ส่วนนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงขึ้นไปอีก แนะนำลงทุนในกองทุน LTF ที่จ่ายเงินปันผลระหว่างการลงทุนที่ชื่อ “กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF)” ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และมีความมั่นคงไม่เกิน 20 ตัว เช่น กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ,เงินฝาก บัตรเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น ซึ่งผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2562 ถึงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาอยู่ระดับ 9.23% และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 11.44% ต่อปี

บัวหลวงคัด LTF-RMF เด่น เสิร์ฟนักลงทุน

กลยุทธ์การลงทุนในกองทุน RMF สำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง รับผลตอบแทนน้อยได้ และไม่ต้องการขาดทุน แนะนำให้ลงทุนใน “กองทุนเปิด         พริน ซิเพิล มันนี่ มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (PRINCIPAL MMRMF)” ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งในและต่างประเทศ โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาอยู่ระดับ 1.19%

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ แนะนำลงทุนในกองทุนหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศอย่าง “กองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF)” ที่ลงทุนในบริษัทโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และ “กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH)” ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นหลัก โดยทั้งสองกองทุนสร้างผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 2562 ถึงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาเฉลี่ย 15.59% และ 25.22% ตามลำดับ

 “การลงทุนกองทุน RMF ในช่วงตลาดผันผวน นักลงทุนควรจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ โดยเน้นลงทุนกองทุนที่กระจายความเสี่ยงไปในหลากหลายสินทรัพย์ สำหรับความเสี่ยงปานกลาง แนะนำให้แบ่งสัดส่วนการลงทุนไปในตราสารหนี้ 60%  หุ้นไทย 20%  และหุ้นต่างประเทศ 20%”