รสก. กำไร 9 เดือน วูบ 2.5 หมื่นล้าน  ‘THAI’ จ่อทรุดต่อ

05 ธ.ค. 2562 | 04:45 น.

หุ้นรัฐวิสาหกิจไตรมาส 3 /2562 กำไรสุทธิ 3 บริษัท ลดลง 12,109.30 ล้านบาท ส่วน 9 เดือน ลดลง 25,066.79 ล้านบาท MCOT พลิกมีกำไรสุทธิ ด้าน THAI ยังครองแชมป์ขาดทุนต่อเนื่อง โบรกฯชี้ไตรมาส 4 ขาดทุนต่อ ด้านราคาหุ้น AOT ลดลงจากความผิดหวังงบการเงิน แนะรอลุ้นผลการดำเนินงานPTT ปี 2563

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลังในสัดส่วนที่มากกว่า 50% มีจำนวน 5 บริษัท คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.)(PTT), บมจ.การบินไทย (THAI), บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) และบมจ.อสมท (MCOT) มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2562 กำไรสุทธิลดลงทุกบริษัท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิลดลงจำนวน 3 บริษัท โดย MCOT พลิกมีกำไรสุทธิ ขณะที่ THAI มีผลขาดทุนสุทธิทั้งไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2562

สำหรับไตรมาส 3 ปี 2562 PTT, AOT และ KTB มีกำไรรวม 32,492.10 ล้านบาท ลดลง 12,109.30 ล้านบาท หรือ 27.15% จากไตรมาส 3 ปี 2561 อยู่ที่ 44,601.40 ล้านบาท ส่วน THAI ขาดทุนสุทธิ 4,681.50 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 980.91 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิที่ 3,700.59 ล้านบาท และ MCOT ขาดทุนสุทธิ 155.57 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 103.85 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิที่ 51.22 ล้านบาท

ด้านงวด 9 เดือน ปี 2562 PTT, AOT, KTB และ MCOT มีกำไรรวม 117,335.03 ล้านบาท ลดลง 25,066.79 ล้านบาท หรือ 17.60% จากงวด 9 เดือน ปี 2561 อยู่ที่ 142,401.82 ล้านบาท ส่วน THAI ขาดทุนสุทธิ 4,082.22 ล้านบาท โดยขาดทุนลดลง 7,037.65 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิถึง 11,119.87 ล้านบาท

รสก. กำไร 9 เดือน วูบ 2.5 หมื่นล้าน  ‘THAI’  จ่อทรุดต่อ

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ของ THAI ยังขาดทุนตามที่คาดไว้ ทั้งปริมาณผู้โดยสารและการใช้กำลังการผลิตมีการหดตัวลง ทำให้อัตราการบรรทุกยังทรงตัวประมาณ 80% ขณะที่อัตราผลตอบแทนยังลดลงเป็น 7.7% รวมทั้งการต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง โดยได้ปรับลดประมาณการลงอีก คาดว่างวดไตรมาส 4 ปีนี้ ยังคงประสบภาวะการขาดทุน

บล.ทรีนีตี้ จก. ระบุว่า คงคำแนะนำหุ้น AOT “ถือที่ราคาเป้าหมายหุ้นละ 83 บาท โดยราคาหุ้น AOT ได้ปรับลดลงตามที่คาดไว้ หลังจากปรับลดคำแนะนำเป็นถือซึ่งในระยะสั้นราคาหุ้นอาจจะปรับตัวลดลงได้อีกจากความผิดหวังของกำไรงวดปี 2562 แต่ยังคงมุมมองเดิมต่อหุ้น AOT ที่รายได้และกำไรสุทธิในปี 2563 จะยังเติบโตได้ไม่โดดเด่น ทั้งนี้ การที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจะเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นเพื่อหวังการเติบโตในระยะยาวได้ ทั้งการประมูล Pick-up Counter การขยายและการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 รวมไปถึงการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านบล.บัวหลวงฯ ระบุว่า ผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซของ PTT ในปี 2563 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 โดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาวขณะที่ ความคืบหน้าของโครงการมาบตาพุดเฟส 3 ที่ลงนามสัญญาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคาดว่าจะเริ่มถมทะเลประมาณกลางปี 2563 ส่วนของโครงการแหลมฉบังเฟส 3 อยู่ระหว่างรอผลการประมูล นอกจากนั้นยังมีโครงการใน EEC ที่ PTT น่าจะมีโอกาสเข้าร่วมลงทุนเพิ่มเติมอีก

บล.เคจีไอฯ ระบุว่า แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมจะยังซบเซา แต่ KTB ก็ยังเคลื่อนไหวในแง่การปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร (interbank) โดยสถานะการปล่อยกู้เพิ่มขึ้น 35% จากต้นปีถึงปัจจุบัน ซึ่งKTB มีการเพิ่มพอร์ตตราสารหนี้ การปล่อยกู้ในตลาดเงิน และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการปล่อยกู้ให้รัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้นในช่วงสิ้นปีงบประมาณ นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์จากนโยบายรัฐบาล ทำให้สถานะการปล่อยกู้เพิ่มขึ้น

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562

                     รสก. กำไร 9 เดือน วูบ 2.5 หมื่นล้าน  ‘THAI’  จ่อทรุดต่อ