ชงรื้อ TOR สนามกอล์ฟบางพระ หลังเอกชนเมิน

ธพส.เสนอ รื้อแผนพัฒนาสนามกอล์ฟบางพระใหม่ ปรับเงื่อนไข ตัดสร้างห้องพักโรงแรมออก หลังนักลงทุนไม่สนใจ หวังเม.ย.ปีหน้าทำแผนลงทุนได้

นายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.)เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ธพส.ได้เสนอให้กรมธนารักษ์ปรับเงื่อนไขแผนการลงทุนพัฒนาสนามกอล์ฟบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีใหม่ หลังจากไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนตามเงื่อนไขเดิมที่รูปแบบการลงทุนไม่ชัดเจน เพราะคาบเกี่ยวระหว่างการลงทุนพัฒนาสนามกอล์ฟกับธุรกิจการจัดประชุมและนิทรรศการ(ไมซ์) ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจในการเข้ามาลงทุน เนื่องจากต้องใช้เม็ดเงินลงทุนสูง 

"ที่ผ่านมา นักลงทุนสนใจลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว เพราะมองเหมือนกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ต้องการให้พัฒนาสนามกอล์ฟบางพระให้รองรับทั้งนักกีฬากอล์ฟและเป็นสถานที่พักผ่อนระดับ 5 ดาวไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าสูง แต่เมื่อวิเคราะห์ถึงผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนแล้วกลับไม่คุ้มค่า เพราะกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน เพราะเงื่อนไขเดิมกำหนดให้ต้องมีการสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ มีจำนวนห้องพัก 200 ห้อง พร้อมห้องประชุมสัมมนารองรับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 200 คน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่มาก จึงไม่มีผู้สนใจร่วมลงทุน ดังนั้นหากปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่แล้ว เชื่อว่า จะมีผู้สนใจยื่นซองประมูลกันมากขึ้น"

ดังนั้นเบื้องต้นจึงเสนอให้กรมธนารักษ์ปรับปรุง TOR ใหม่ ด้วยการตัดการสร้างห้องพักโรงแรมออก และปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นเพื่อรองรับครอบครัวนักกอล์ฟ รวมทั้งการลงทุนเพิ่มศักยภาพของสนามกอล์ฟมากขึ้น ซึ่งการปรับแผนดังกล่าวเพื่อต้องการดึงดูดนักกอล์ฟในภาคตะวันออก โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทั้งญี่ปุ่น และเกาหลี ให้มาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซื้อสมาชิกสนามกอล์ฟเพื่อตีกอล์ฟปีละ 30,000-40,000 บาทต่อรายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากมีการปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะมีนักลงทุนส่วนใจร่วมทุนมากขึ้นแน่นอน โดยธพส.หวังว่ากรมธนารักษ์จะดำเนินการจัดทำแผนลงทุนใหม่ดังกล่าวได้ในเดือน เม.ย. 2563 

"ธพส.บริหารสนามกอล์ฟบางพระมาปีครึ่ง นับตั้งแต่ต.ค.ปี 60-เม.ย.62 สามารถสร้างกำไรมาได้ 18 ล้านบาท แต่จริงๆ แล้ว ถ้าบริหารดีกว่านี้ โดยพัฒนาให้เป็นสนามกอล์ฟที่มีประสิทธิภาพอย่างเดียว จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจนกว่านี้แน่นอน ดังนั้นหากธนารักษ์เห็นด้วยกับสิ่งที่เราเสนอ ก็จะต้องปรับปรุง TOR ให้เสร็จในเดือนนี้ เพื่อให้ลงทุนทันในเม.ย.ปีหน้า”นายนาฬิกอติภัค กล่าว

นอกจากนี้ธพส.มีแนวทางในการหารายได้เพิ่ม ด้วยการนำที่ราชพัสดุในส่วนของหน่วยราชการที่ได้รับจากกรมธนารักษ์มาบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในปีหน้า จะเริ่มนำร่องพัฒนาพื้นที่ 1 ไร่ บริเวณอาคารสโมสรของกรมสรรพสามิต ด้วยการลงทุนสร้างอาคารสำนักงาน 4 ชั้น ประมาณ 170 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปี จากนั้นจะให้กรมสรรพสามิตเช่าต่อนาน 15 ปี ก่อนโอนเป็นกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลังบริหารจัดการต่อ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ธพส.มีกำไรจากการลงทุนดังกล่าวเฉลี่ย 5-8% ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ธพส.จะขยายการลงทุนลักษณะดังกล่าวต่อไปในพื้นที่หน่วยงานราชการอื่นๆด้วย โดยเบื้องต้นโครงการอยู่ระหว่างการรออนุมัติของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่า จะมีความชัดเจนในไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า