ดาวโจนส์ปิดร่วง 268.37 จุด หลัง"ทรัมป์"เปิดศึกการค้ารอบใหม่

02 ธ.ค. 2562 | 23:55 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 นอกจากนี้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,783.04 จุด ร่วงลง 268.37 จุด หรือ -0.96%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,113.87 จุด ลดลง 27.11 จุด หรือ -0.86% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,567.99 จุด ลดลง 97.48 จุด หรือ -1.12%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 48.3 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.4 โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่4

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจของสหรัฐมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือนก.ค. โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต็อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลงด้วย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับมาตรการทางการค้าที่สหรัฐนำมาใช้กับบรรดาประเทศคู่ค้า โดยประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยระบุว่า บราซิลและอาร์เจนตินาได้ลดค่าเงินลงอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเกษตรกรของสหรัฐ ดังนั้น สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเหล็กกล้าและอลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยมีผลบังคับใช้ในทันที