‘คิงเพาเวอร์’ทุ่ม1.3 พันล้านถือหุ้นใหญ่ RS 

30 พ.ย. 2562 | 23:28 น.

“กลุ่มคิงเพาเวอร์” ซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจาก “เฮียฮ้อ” จำนวน 96 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 13.70 บาท รวม 1,315 ล้านบาท ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ทันที เผยปีนี้ “เฮียฮ้อ” เก็บเงินจากการขายหุ้นกว่า 2,435 ล้านบาท โบรกฯชี้ส่งผลดีต่อราคาหุ้น พร้อมเดินหน้าปรับผังรายการสู้ศึกทีวีดิจิทัลปี 63

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 พบการซื้อขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ของบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS) จำนวน 96,000,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 13.70 บาท รวมมูลค่า 1,315,200,000 บาท โดยเป็นการขายหุ้นของ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ (เฮียฮ้อ) ประธานกรรมการบริษัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อของกลุ่มศรีวัฒนประภาหรือ กลุ่มคิงเพาเวอร์ จำนวน 9.87% ซึ่งในอดีตได้เคยซื้อหุ้น RS แล้วเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 จำนวน 94 ล้านหุ้น และได้ขายหุ้นออกเกือบทั้งจำนวนในช่วงวันที่ 8 ตุลาคม 2558

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจข้อมูลการขายหุ้นของผู้บริหาร RS ปี 2562 พบว่า นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ขายหุ้นรวม 4 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 2,435,300,000 บาท ขณะที่การขายหุ้นล่าสุด ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ของ RS มีการเปลี่ยนแปลง โดยนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 สัดส่วน 20.79% ส่วนกลุ่มคิงเพาเวอร์ ถือหุ้นเป็นอันดับ 2 สัดส่วน 9.87% อันดับ 3 คือนายโสรัตน์ วณิชวรากิจ สัดส่วน 9.65% อันดับ 4 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด สัดส่วน 6.44% และอันดับ 5 บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) สัดส่วน 6.06%

สำหรับที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 นายสุรชัย และนายโสรัตน์ วณิชวรากิจ 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ RS ได้ขายหุ้นบิ๊กล็อต รวมกัน 3 รายการ จำนวนรวม 70 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 15 บาท คิดเป็นมูลค่า 1,050 ล้านบาท โดยผู้ทำรายการเข้าซื้อ คือ BTS นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ได้จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจใหม่กับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WORK) ซึ่งจากการประเมินรายได้จากการร่วมธุรกิจกับช่องเวิร์คพอยท์ ในปี 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท และปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

‘คิงเพาเวอร์’ทุ่ม1.3 พันล้านถือหุ้นใหญ่ RS 

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ยังคงแนะนำให้ถือหุ้น RS จากการคาดการณ์ธุรกิจพาณิชย์ (Multi-platform Commerce : MPC) มีอัตราการเติบโตที่ลดลงจากในอดีตจากการแข่งขันขายสินค้าผ่านทีวีที่มีจำนวนมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และมีการเปรียบเทียบสินค้าที่มีความหลากหลาย ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังซบเซาส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น สำหรับธุรกิจมีเดียทีวีดิจิทัลยังคงมีการแข่งขันรุนแรงในด้านคอนเทนต์ เรตติ้ง และราคา ส่งผลให้การปรับอัตราค่าโฆษณามีจำกัด โดยคาดกำไรปกติปี 2562 ลดลง 3% และปี 2563 เพิ่มขึ้น 10% ด้านราคาเป้าหมายอยู่ที่ 13.00 บาท

ด้านบล.เอเซียพลัสฯ ระบุว่า การเข้ามาถือหุ้น RS ของกลุ่มคิงเพาเวอร์ ถือเป็นปัจจัยที่ดีต่อราคาหุ้น RS เนื่องจากไม่ได้กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงานของ RS รวมถึงปัจจัยทางพื้นฐาน แต่ยังมีลุ้นว่าในอนาคต คิงเพาเวอร์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับบริษัท RS หรือไม่และอย่างไร ทั้งนี้ ในมุมพื้นฐาน พบว่า ราคาหุ้น RS ปีนี้ ยังต่ำกว่าตลาดอยู่มาก คือ ปรับตัวลงมา 7.4% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 2.8% โดยต่อจากนี้ยังมีหลายปัจจัยให้น่าสนใจลงทุน จากการขับเคลื่อนสู่ Data-Driven Entertainmerce พร้อมกับเตรียมเปิดตัวพันธมิตรใหม่อีก 2 ช่อง ภายในปีนี้ จะทำให้ RS มีช่องทางการขายสินค้าผ่านทีวีดิจิทัลรวมทั้งหมด 4-5 ช่อง เข้าถึงฐานผู้ชมราว 40 ล้านคนต่อวัน

 

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS กล่าวว่า บริษัทได้ปรับผังรายการใหม่ เพื่อเดินหน้าขยายฐานผู้ชมทั่วประเทศ ให้สำเร็จเร็วขึ้น เน้นการนำเสนอคอนเทนต์ที่เหมาะสม เจาะกลุ่มคนดูทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนดูที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมอายุ 25 ปีขึ้นไป และมีโอกาสเป็นผู้ชมใหม่ โดยเน้นเนื้อหาที่ดูง่ายแบบครอบครัว โดยมองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล ปี 2563 ทุกช่องต่างปรับโฉมผังรายการให้มีคุณภาพโดนใจผู้ชมและช่วงชิงสายตาคนดู การเตรียมทัพในศึกใหม่นี้ คาดว่าจะเป็นไปอย่างดุเดือด และรุนแรง

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่39 ฉบับที่ 3,527 วันที่ 1-4 ธันวาคม 2562

                  ‘คิงเพาเวอร์’ทุ่ม1.3 พันล้านถือหุ้นใหญ่ RS