PORT เชื่อย้ายกระดานเทรด SET เพิ่มสภาพคล่อง
PORTเดินหน้าลงทุนท่าเรือที่ 3 และคลังสินค้า มั่นใจลุยผ่านมรสุมเทรดวอร์ เชื่อย้ายเข้าเทรดใน SET เพิ่มสภาพคล่อง
นางสาวเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน)หรือ PORTเปิดเผยว่า การย้ายบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)วันนี้(26 พ.ย.) จากที่จดทะเบียนในตลาด mai มาตั้งแต่ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 คาดว่า จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหลักทรัพย์ ลดข้อจํากัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ และเพิ่มเสถียรภาพให้กับบริษัทและหุ้นของบริษัทฯมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นทุกราย
"PORTเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทฯเดียวในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ให้บริการท่าเรือเชิงพานิชย์แบบครบวงจร โดยได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องจนเป็นผู้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากสายเรือชั้นนำหลายสายที่เข้ามาเป็นทั้งลูกค้าและหุ้นส่วนทางธุรกิจ”
นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORTกล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการนวัตกรรมโลจิสติกส์โซลูชั่นในประเทศที่ลูกค้าเลือกเป็นลำดับแรก ด้วยกลยุทธหลัก 3 ด้าน คือ เติบโตไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน เน้นนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามามีส่วนช่วยในการให้บริการ โดยได้เริ่มทดลองเทคโนโลยีการอ่านตู้สินค้าอัตโนมัติ หรือ OCR (Optical Character Recognition)ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา ลดขั้นตอนในการบันทึกข้อมูล เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ และพัฒนาด้านบุคลากรของบริษัทฯเพื่อให้ได้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อยกระบบองค์กร
ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยลงทุนสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 คาดว่า จะเสร็จในปี 2564 ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการให้บริการท่าเรือได้อีกประมาณ 180,000 TEUs/ปี รวมเป็น 920,000 TEUs/ปี หรือเพิ่มขึ้นราว 24% และโครงการขยายศูนย์กระจายสินค้าต่อยอดธุรกิจบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยพัฒนาและบริหารโครงการโลจิสติกส์พาร์ค หรือศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2563 และจะเข้ามามีส่วนช่วยให้ปริมาณการขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเรือเติบโตขึ้น
"ปี 2563 ทางบริษัทฯคาดการณ์ว่า ภาวะการนำเข้าส่งออก อาจจะยังเป็นปัจจัยที่ท้าทายสำหรับฝ่ายบริหาร แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯก็ได้มีการจัดการภายในเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและคล่องตัว ทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯมีความพร้อมในการแข่งขัน”