สมคิด รับส่งออกต.ค.ติดลบ 4.5%

21 พ.ย. 2562 | 07:57 น.

 

สมคิดรับ ส่งออกต.ค.ติดลบ 4.5% เหตุเศรษฐกิจโลกไม่ดี วอนทุกฝ่ายช่วยประคองเศรษฐกิจ หวั่นกระทบปีหน้า พร้อมสั่งคลังเร่งออกมาตรการกระตุ้นช่วงท้ายปี 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความเสี่ยงจากการส่งออกที่ชะลอตัวลง โดยล่าสุดการส่งออกในเดือนต.ค.ที่ติดลบ 4.5% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของปีนี้ ติดลบ 2.5% นั้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทำให้การส่งออกของทุกประเทศชะลอตัว ต่อเนื่องมายังการนำเข้าให้ชะลอตัวลงตามไปด้วย ประกอบกับความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่นในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันประคับประคองเศรษฐกิจในปีนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้ และมีแรงเหวี่ยงส่งไปยังเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ

สมคิด รับส่งออกต.ค.ติดลบ 4.5%

“เรื่องการส่งออกเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่จะต้องจัดการ แต่จะโทษใครไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาของทั่วโลก ส่งออกทั่วโลกไม่ดี ก็มีผลมายังนำเข้าด้วยถูกกระทบไปหมด ดังนั้นต้องสู้ ทุกคนต้องสู้ ต้องช่วยกัน”นายสมคิด กล่าว
 

ย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ชะลอตัวไม่มากนัก เพราะหากเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวแล้ว แต่ไทยยังดูแลเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ให้ขยายตัวได้ 2.4% ถือว่าเป็นระดับที่ทรงตัวแล้ว ดังนั้นจะต้องประคองเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 เพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าด้วย 

ดังนั้นจึงต้องการให้กระทรวงการคลังช่วยดูแลภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยพิจารณาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวออกมา เพราะยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นจำเป็นที่ไทยจะต้องดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้แข็งแรงไว้ก่อน

สมคิด รับส่งออกต.ค.ติดลบ 4.5%

“กระทรวงการคลังรู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง มาตรการให้ไปคิดมาว่ามีอะไรบ้าง ส่วนการรับมือในปีหน้ายังบอกตอนนี้ไม่ได้”นายสมคิด กล่าว 

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ในส่วนของกรมสรรพากรนั้น พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล หากต้องการให้สรรพากรเข้ามามีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาตรการที่จะออกมา แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไปในแนวทางใด 

ขณะที่นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส.กล่าวว่า มารายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบถึงโครงการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งที่เป็นการช่วยเหลือผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการประกันรายได้เกษตรกร ประกอบด้วย ข้าว ปาล์ม และยางพารา โดยได้มีการจ่ายเงิยให้กับเกษตรกรไปแล้วรวมทั้งสิ้น 43,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินที่ตั้งไว้ที่ 82,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด ได้สั่งให้กระทรวงการคลังเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า โดยช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย โดย ธ.ก.ส. จะออกมาตรการให้เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งจะถึงฤดูการเก็บเกี่ยวในไม่ช้านี้  และยังให้ ธ.ก.ส. ไปพิจารณาความเป็นไปได้ของการพักหนี้กองทุนหมู่บ้านให้กับลูกหนี้ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อช่วยเหลือความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ จะมีมาตรการเสริมมาตรการชิมช้อปใช้ ให้มีการจับรางวัลชิงโชคทองคำมูลค่าสูง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ได้สิทธิ์ในโครงการประมาณ 15 ล้านคน ใช้เงินในกระเป๋าตัง 2 มากขึ้น ซึ่งมีการใช้เพิ่มมากขึ้นวันละ 200-300 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ จะทำให้มีการใช้จ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจปลายปีนี้เพิ่มมากขึ้น

สมคิด รับส่งออกต.ค.ติดลบ 4.5%