ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

18 พ.ย. 2562 | 09:48 น.

ธปท.รับ สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไม่ถึงเป้า 5% เหตุเศรษฐกิจชะลอ ความต้องการลงทุนน้อย กดสินเชื่อไตรมาส 3 โตแค่ 3.8% เฉลี่ย 9 เดือนโตแค่ 1.5% ส่วนหนี้เสียคาดสิ้นปีไม่เกิน 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.01% มั่นใจรายได้-กำไรยังขยายตัวได้ดี เงินกองทุนยังปึ๊ก  
 
นายธาริฑธ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราการขยายตัวของสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวอยู่ที่ 3.8% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ 4.2%  และหากเทียบตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันขยายตัวอยู่ที่ 1.5% จะเห็นว่าชะลอตัวลงมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.ชะลอตามภาวะเศรษฐกิจ 2.อัตราผลตอบแทนต่ำส่งผลให้คนทยอยคืนเงินกู้ และ 3.ปัจจัยเฉพาะกาลที่ในไตรมาสที่ 3 สินเชื่อจะขยายตัวไม่สูง แต่จะไปเร่งตัวในไตรมาสที่ 4 

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

ทั้งนี้ หากดูการเติบโตของสินเชื่อจะมาจากสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงทำให้ธนาคารมุ่งเน้นการขยายตัว โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 8.7% ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจขยายตัวเพียง 1.3% โดยเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีอัตราการเติบโตติดลบ 1.0%และธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวอยู่ที่ 2.6% ส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ความต้องการขยายกิจการหรือลงทุนใหม่ชะลอตัวลง  

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

ขณะที่คุณภาพสินเชื่อไตรมาสที่ 3 มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 4.69 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นล้านบาท หรือ 2.95% เพิ่มเป็น 3.01% จากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากลูกหนี้รายใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อ SME เป็นสำคัญ ขณะที่ยอดคงค้างเอ็นพีแอลของสินเชื่อที่อยู่อาศัยและรถยนต์ยังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี คาดภายในสิ้นปีจะลดลงมาอยู่ในกรอบ 3% เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีวิธีการบริหารจัดการ 

ส่วนที่สินเชื่อจับตาเป็นพิเศษ(SM)ปรับลดลงเช่นเดียวกันโดยอยู่ที่ 2.59% จาก 2.74% เนื่องจากลูกหนี้รายใหญ่บางรายถูกเปลี่ยนการจัดชั้นเป็นเอ็นพีแอล 
“เป้าหมายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์โดยรวมกรอบเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5% แต่ธปท.คาดว่ามีโอกาสความเป็นไปได้น้อยที่จะขยายตัวได้ในระดับ 5% ส่วนแนวโน้มในปี 2563 กรอบการขยายตัวสินเชื่อโดยปกติจะอยู่ที่ 1.5-2 เท่าของจีดีพี ส่วนเอ็นพีแอลมีโอกาสขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ หากขยายตัวได้ดี เอ็นพีแอลจะดีขึ้น”   

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

นายธาริฑธ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 9.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้พิเศษจากการขายเงินลงทุนของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเป็นสำคัญ ส่งผลให้ภาพรวมกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 อยู่ที่ 2.14 แสนล้านบาท  หากตัดรายการพิเศษ กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ยังคงเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย รายได้จากเงินปันผล และรายได้ค่าธรรมเนียมจากค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์และขายประกัน 

ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับสินเชื่อด้อยคุณภาพและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset: ROA) เพิ่มขึ้นจาก 1.26% ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 1.98% ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) ทรงตัวที่ 2.74% 

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

นอกจากนี้ ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2.73 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไรเข้าเป็นเงินกองทุนและการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยบางแห่ง ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.2% และมีเงินสำรองเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 9.9 พันล้านบาท มาอยู่ที่ 6.90 แสนล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 196.3% เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ  ด้านอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ในระดับสูงที่ 185.0%

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%

"ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองเพิ่มขึ้น สามารถรองรับความท้าทายจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจได้  สำหรับผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับดีขึ้น"

ธปท.รับสินเชื่อแบงก์ทั้งปีโตไม่ถึง 5%