คลายกฎค้าทอง ลดแรงกดดันบาทแข็ง
ทีเอ็มบี ชี้ มาตรการซื้อขายทองคำช่วยสกัดบาทแข็ง เผย Q2 ยอดคงค้างบัญชี FCD แตะ 7.2 แสนล้านบาท
นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตรการผ่อนคลายการซื้อขายทองคำด้วยสกุลเงินตราต่างประเทศถือเป็นมาตรการที่ช่วยลดแรงกระแทกค่าเงินบาทผันผวนได้พอสมควรเนื่องจากตัวเลขการส่งออกและนำเข้าทองคำแต่ละปีถือว่า สัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับการส่งออกทั้งปีของไทย จึงเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาทให้ผันผวน
“ตัวเลขส่งออกทองคำช่วงไตรมาส 2 ที่ 1.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 4% ของมูลค่าส่งออกทั้งปี โดยมียอดนำเข้าทองคำ 1.25 แสนล้านบาทคิดเป็น 3% ของมูลค่าส่งออกทั้งปี ถือว่ามีสัดส่วนสูง หากผู้ประกอบการสามารถซื้อขายโดยไม่ต้องแปลงเงินไปมาผ่านบัญชี FCD จะช่วยลดแรงกดดันได้พอสมควร”
นริศ สถาผลเดชา
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขคงค้างบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ณ ไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 7.2 แสนล้านบาทเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ภาคธุรกิจ 4.4 แสนล้านบาท เติบโต 10% สะท้อนการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจ ส่วนบัญชี FCD ที่ต่างชาติมาพักเงินไว้อยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท เติบโต 16% และรายบุคคล-สถาบันการเงินอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% ซึ่งหากเทียบยอดคงค้างบัญชี FCD กับ มูลค่าการส่งออกที่ปีละ 5 ล้านล้าน บาท บัญชี FCD คิดเป็น 15% ถือว่าค่อนข้างสูง เชื่อว่าหากผู้ประกอบ การได้รับคำแนะนำจากสถาบันการเงิน แม้ว่าจะไม่ทั้งหมดแต่จะช่วยเรื่องค่าเงินบาทได้ระดับหนึ่ง
ส่วนการขยายวงเงินให้ผู้ประกอบการส่งออกไม่ต้องนำเงินกลับเข้าประเทศจาก 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อใบคำสั่งสินค้าเป็น 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเพิ่มเป็น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 3 เดือนนั้น มองว่ากลุ่มที่จะได้ประโยชน์น่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากวงเงินต่อใบคำสั่งซื้อค่อนข้างสูงและเป็นกลุ่มที่มีทั้งส่งออกและนำเข้า ซึ่งสามารถชำระเงินระหว่างกันได้จากต่างประเทศ
“ต้องระวังพฤติกรรมผู้ส่งออก-นำเข้าเพราะหากเงินบาทเคลื่อนไหวขึ้นลงอาจเพิ่มการเก็งกำไรได้เช่นกัน แม้จะหยุดบาทแข็งลงได้ แต่ทำให้บาทอ่อนลงได้เล็กน้อย สิ่งที่ต้องจับตาคือ หากไทยไม่ถูกมองเป็น Safe Haven และฐานค่าเงินบาทใหม่วิ่ง 2 ทางทั้งแข็งและอ่อนค่า จากเดิมที่ไทยเป็นตลาดขาเดียวที่แข็งค่าเรื่อยๆ แม้ผู้ส่งออกได้ประโยชน์บาทอ่อน แต่หากบาทอ่อนและเหวี่ยงก็ต้องระวังเช่นกัน”
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2562
