เปิดศึกชิงเงินฝากแบงก์ตุนเงินรับปล่อยสินเชื่อ หนีดอกเบี้ยขึ้น

19 ต.ค. 2561 | 02:00 น.
 

แบงก์แห่ระดมเงินฝากโค้งสุดท้ายปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ ทิศทางเงินฝากกระเตื้อง หลัง 8 เดือนเติบโต 4.8% ขณะที่ธนาคารรัฐขยาย 6.1% ประเมินทั้งปีโต 5.5% ด้านกรุงศรีอยุธยา เผยโครงการรัฐ-ดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนระบบเร่งระดมเงินฝาก ออมสินระบุ 3 เดือนสุดท้ายระดมเงินฝาก 8 หมื่นล้าน

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัดเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตัวเลขเงินฝากของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 12.38 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.8% ขณะที่เงินฝากรวมตั๋วแลกเงินมีจำนวนรวม 12.40 ล้านล้านบาทขยายตัว 4.5% ส่วนสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(SFIs) ช่วง 8 เดือน มีเงินฝากรวม 4.79 ล้านล้านบาท เติบโตประมาณ 6.1%

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนสิงหาคม การขยายตัวของเงินฝากส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินฝากประเภทออมทรัพย์กับประเภทกระแสรายวัน(CASA) โดยเห็นได้จากสัดส่วน CASA ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 62.2% ในเดือนสิงหาคม เทียบจากสิ้นเดือนธันวาคมปีก่อนอยู่ที่ 61.60% ซึ่งเงินฝากที่ไหลเข้ามาในกลุ่ม CASA สะท้อนธนาคารในระบบเน้นบริหารจัดการต้นทุน โดยไม่แข่งขันและออกแคมเปญพิเศษน้อยลง

MP24-3410-A

“ปีนี้เงินฝากจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทดแทนรุ่นที่ครบอายุ ล่าสุดเดือนกันยายนเงินฝากในระบบครบกำหนดประมาณ 9 ประเภท แต่มีการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพียง 4 ประเภทเท่านั้น ส่วนใหญ่ยังเกาะกลุ่มในธนาคารขนาดกลางเล็กและอัตราดอกเบี้ยยังไม่ขยับขึ้น แต่หลังจากนี้เงินฝากจะทยอยออกมาแข่งกับผลิตภัณฑ์การออมในรูปแบบอื่นๆเช่น เงินออมประหยัดภาษี และแนวโน้มสินเชื่อขยับและแคมเปญล็อกเงินฝากก่อนดอกเบี้ยจะปรับขึ้นปีหน้า”

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินฝากทั้งปี 2561 นั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า อัตราการเติบโตเงินฝากจะอยู่ในกรอบ 5.0-5.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 5.9% โดยที่แนวโน้มสินเชื่อมีโอกาสเติบโตทั้งปีที่ระดับ 4.8%

นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า การแข่งขันเงินฝากในระบบปีนี้ ยังอยู่ในระดับปกติ ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงเดือนกันยายน โดยในส่วนของธนาคารกรุงศรีอยุธยาเอง มีการระดมเงินฝากต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีเพื่อสนับสนันสินเชื่อที่ขยายตัว โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ในระบบจะเร่งปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นจะเห็นการระดมเงินฝากเร่งขึ้นเช่นกันประกอบกับเงินฝากประจำส่วนหนึ่งที่ครบกำหนด โดยมีสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากออมทรัพย์เผื่อเรียก (CASA) อยู่ที่ประมาณ 50%

“เป้าระดมเงินฝากทั้งปีนี้เราตั้งไว้ประมาณ 8-10% ซึ่งสอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวต่อเนื่องและแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ต้องล็อกต้นทุนเตรียมไว้โดยที่ผ่านมาเน้นระดมเงินฝากตั้งแต่ 6-12 เดือนแต่ช่วงนี้จะมีระยะเวลายาวหน่อยด้วยการออกเงินฝากประจำพิเศษ 18 เดือน”

นอกจากนี้จะเห็นว่า ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีการออกโปรดักต์เงินฝากเช่นกันส่วนหนึ่งเพื่อสนองนโยบายรัฐทั้งสนับสนุนโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจในระบบรวมถึงการส่งเสริมการออมกับประชาชนคนไทย

[caption id="attachment_334028" align="aligncenter" width="503"] ชาติชาย2 ชาติชาย พยุหนาวีชัย[/caption]

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินกล่าวว่า ธนาคารจะเดินหน้าระดมเงินฝากในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ ขยายตัว 4% หรือเป็นเงิน 8 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีเงินฝากใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ 2.26 ล้านล้านบาท ดังนั้นจะทำให้ยอดเงินฝากสิ้นปีปิดที่ 2.34 ล้านล้านบาทได้ตามเป้าหมาย ขณะยอดการปล่อยสินเชื่อปัจจุบันได้แล้ว 1.5 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่คาดว่า สินเชื่อจะเติบโต 1-1.5 เท่าของอัตราการขยายตัวของ
จีดีพี หรือคิดเป็น 80,000 -1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้สินเชื่อสิ้นปีปิดที่ 2.15 ล้านล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 2.01 ล้านล้านบาท

“เราไม่ได้เร่งระดมเงินฝากเพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่าดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่เป็นการทำไปตามแผนที่ตั้งไว้อยู่แล้วว่า การระดมเงินฝากส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย เพื่อเตรียมเงินไว้รองรับการปล่อยสินเชื่อในต้นปี ขณะที่ช่วงต้นปีเราก็จะทำเรื่องอื่นๆแทน ที่ไม่มีการระดมเงินฝาก”นายชาติชายกล่าว

ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้เปิดรับฝาก “สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดเกษตรมั่งคั่ง 3” จำนวน 600 ล้านหน่วย หน่วยละ 100 บาท รวมเงิน 60,000 ล้านบาท
เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนทั่วไปสำหรับนำไปใช้เป็นทุนสนับสนุนภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือสลากออมทรัพย์ธ.ก.ส. ชุดที่ 2 ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนให้สามารถฝากเงินกับ ธ.ก.ส. ได้อย่างต่อเนื่องและยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาว เพราะได้ทั้งดอกเบี้ยและยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลด้วย

หน้า 23-24  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,410 วันที่ 18 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว