บลจ.กสิกรฯเปิดตัวK-FITจัดพอร์ตลงตัว4แบบ

19 ก.ย. 2560 | 09:33 น.
บลจ.กสิกรไทย เปิดขาย 4 กองทุนใหม่ในกลุ่ม K-FIT กระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ตอบโจทย์การลงทุนแบบพอร์ตที่จัดสรรสัดส่วนมาให้แล้ว มีให้เลือก 4 แบบ ตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องการ 4 ระดับ ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท ผ่านช่องทางดิจิตอล K-My Funds, K PLUS และ K-Cyber Invest ไอพีโอ 14 ก.ย. – 2 ต.ค.2560

[caption id="attachment_209792" align="aligncenter" width="370"] นายนาวิน อินทรสมบัติ นายนาวิน อินทรสมบัติ[/caption]

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 14- กันยายน – 2 ตุลาคม 2560 บลจ.กสิกรไทย เปิดขายกองทุนในกลุ่มกองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น (K-FIT) ประกอบด้วย 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น S (K-FITS) กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น M (K-FITM) กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น L (K-FITL) และ กองทุนเปิดเค ฟิต แอลโลเคชั่น XL (K-FITXL)

ทั้ง 4 กอง เป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ (Fund of Funds) ที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ และ/หรือสินทรัพย์ทางเลือก โดยจะลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย ในสัดส่วนที่แตกต่างกันตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดหวัง 4 ระดับ ทั้งนี้ กองทุนรวมที่จะลงทุนได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีศักยภาพที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในประเภทสินทรัพย์นั้นๆ

นายนาวิน กล่าวว่า กองทุนในกลุ่ม K-FIT ได้จัดสรรพอร์ตการลงทุนตามสัดส่วนต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่แตกต่างกัน 4 แบบ ได้แก่ กองทุน K-FITS จะเน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เป็นส่วนใหญ่ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยซึ่งอ้างอิงกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 3.0% ต่อปี กองทุน K-FITM จะเน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เป็นส่วนใหญ่ แต่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นบางส่วนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยซึ่งอ้างอิงกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 5.5% ต่อปี

ส่วนกองทุน K-FITL จะลงทุนในกองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และเพิ่มการกระจายการลงทุนต่างประเทศ เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูง และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยซึ่งอ้างอิงกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 7.5% ต่อปี และกองทุน K-FITXL จะเน้นลงทุนส่วนใหญ่ในกองทุนหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ เหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยซึ่งอ้างอิงกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 10% ต่อปี

สำหรับจุดเด่นของกองทุนในกลุ่ม K-FIT คือการลงทุนที่มีลักษณะเป็นพอร์ตโฟลิโอซึ่งมีการกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทำให้สามารถรับความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงประเภทเดียว นอกจากนี้กองทุนยังใช้กลยุทธ์การกระจายลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ตามสัดส่วนการลงทุนระยะยาว โดยมีการคาดการณ์เศรษฐกิจ ตลาดเงินตลาดทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังในอดีต 10 ปีเพื่อคำนวณหาผลตอบแทนที่คาดหวังของพอร์ตการลงทุน โดยจะมีกระบวนการวิเคราะห์เชิงสถิติเพื่อคำนวณหาผลตอบแทนที่คาดหวังภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ต่ำที่สุด เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่า พอร์ตการลงทุนของกองทุนในกลุ่ม K-FIT ทั้ง 4 กอง จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนอาจมีการทบทวนหรือปรับสัดส่วนของพอร์ตลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือพิจารณาปรับสัดส่วนตามดุลยพินิจ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในกลุ่มกองทุน K-FIT สามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านช่องทางดิจิตอล ได้แก่ แอพพลิเคชั่น K-My Funds แอพพลิเคชั่น K PLUS และบริการ K-Cyber Invest