หุ้น KTC เทรดสนั่นวอลุ่มทะลุพันล.หลังโชว์กำไรโต

19 ก.ค. 2560 | 10:27 น.
หุ้น KTC เทรดสนั่นวอลุ่มทะลุพันล้าน นักลงทุนเก็งกำไรรับไตรมาส 2โต 35% หนี้เสียลด โบรกฯมองต่างมุมแนะนำลงทุน

ความเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ระหว่างวันพุ่งแตะสูงสุดที่112.50 บาทและปิดตลาดที่ 111.50 บาท บวก 6 บาท หรือ 5.69% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1,099.28 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 5 ของตลาด

image1 (1)8877 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 786.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.05 บาท เพิ่มขึ้น 35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 579.86 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.25 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 1,519.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.89 บาท เพิ่มขึ้น 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,214.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.71 บาท

บริษัทระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้โต 12% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่ม 9% เนื่องจากอัตราเพิ่มขึ้นของรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายรวมของบริษัท จึงทำให้บริษัททำกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่งจากปีที่ผ่านมาและยังคงผลักเันแผนงานปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.57% ลดลงหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่อยู่ที่ 1.91% โดย NPL ของบัตรเครดิตและของสินเชื่อบุคคลลดลงจาก 1.37% เหลือ 1.22% และ ลดจาก 1.04% เป็น 0.88% ตามลำดับ
นอกจากนี้ข่าวทาเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2560 เปิดเผยถึงเรื่องท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยได้รายงานที่ประชุม คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเตรียมออกมาตรการควบคมุบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบคุคลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนภาคประชาชนซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณายังไม่มีมาตรการท่ีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่หากพิจารณาถึงผลกระทบจากข่าวดงั กล่าว บริษัทเชื่อว่าจะสามารถปรับตวัรับมือกบัการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้

ด้านโบรกเกอร์ฯมองต่างมุมสำหรับหุ้น KTC โดยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำเพียง ถือ เนื่องจากปรับลดประมาณการรายได้ในปี 2560 และ 2561 ลง 4% และ 29% ตามลำดับ คาดว่ากฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นจะมีผลบังคับใช้ในปลายปีนี้ หลังจากปรับลดประมาณการปี 2561 ไปแล้ว ราคาเป้าหมายจะลดลง 26% เป็น 114 บาท แม้จะมีผลประกอบการที่สดใสในปีนี้

บล.ไอร่า แนะนำถือเช่นกันจากความกังวลมาตรการควบคุมหนี้ครัวเรือน โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 111 บาท ขณะที่บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปรับคำแนะนำซื้อหุ้น เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นสะท้อนข่าวร้ายไปแล้ว โดยปรับตัวลดลง 23% ในรอบ 3 เดือน ตัวเลขการเงินล่าสดุ สะท้อนว่าฐานธุรกิจและความสามารถของผู้บริหารแข็งแกร่งเพียงพอรองรับ จึงปรับราคาเป้าหมาย ลดลงเป็น 122 บาท อิง FY61P/B ท่ีลดลงเป็น2.35 เท่า เพื่อสะท้อน ROE ที่ลดลง ราคาห้นมี Upside+16% ประกอบกับ คาดตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อผลการดาเนินงานที่แข็งแกร่ง