บล.เคทีบีชี้ตลาดยังจับตาเรื่องเกาหลีเหนือและการเลือกตั้งฝรั่งเศส

18 เม.ย. 2560 | 03:20 น.
บล.KTBST มองตลาดหุ้นวันนี้ ( 18 เม.ย.) มีแรงซื้อกลับมาแต่ยังไม่มาก ตลาดยังจับตาเรื่องเกาหลีเหนือและการเลือกตั้งฝรั่งเศส แนะกลยุทธ์ "ถือ" หรือเน้นลงทุนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นที่น่าสนใจ BBL , TCAP , PTTGC , SPALI, AMATA

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินทิศทางตลาดไทยวันนี้(18 เม.ย.) ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศในคืนที่ผ่านมา ตัวเลขสำคัญๆ คือ ยอดค้าปลีกลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านลดลงในเดือน เม.ย. ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์ อ่อนค่าลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยนที่อ่อนตัวลงสู่ระดับ 109 เยน/ดอลล่าร์อีกครั้ง (ส่วนหนึ่งมาจาก ความตึงเตรียดในสถานการณ์ของเกาหลีเหนือที่ลดลง) และที่สำคัญ คือ โอกาสในการที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. และ มิ.ย. นั้นลดลงไปอีก โดยค่า Implied Probabilities ของ Fed Fund Futures เดือน มิ.ย. ปรับลดลงมาในระดับที่ต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรก โดยมาอยู่ที่ 44.6% ในคืนที่ผ่านมา ผลที่จะตามมาเรามองเป็นบวกต่อ Fund Flow ที่จะยังไม่รีบร้อนที่จะขนเงินกลับสหรัฐฯ ดอกเบี้ยของโลกจะยังต่ำไปอีกระยะหนึ่ง แต่ข้อเสีย คือ ค่าเงินบาท จะแข็งค่าขึ้นเป็นลบต่อผู้ส่งออก (เงินบาทเช้านี้ 34.3 บาท/ดอลล่าร์) อย่างไรก็ตาม ผลในทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย เรามองว่า มีมากกกว่าผลลบ

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เช้านี้ $53 เหรียญ ตลาดกลับมาสนใจเรื่องการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนว่า OEPC จะลดกำลังการผลิตหลังหมดอายุข้อตกลงในเดือน มิ.ย.ไปแล้ว ยังเป็นที่สงสัยอยู่ ซึ่งเราเองเชื่อว่าการตัดสินใจจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ ขึ้นกับราคาน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ณ 25 พ.ค. ที่ OEPC จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ปัจจัยลบของน้ำมัน อาจมาจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ลดลง แต่ถึงกระนั้น เราประเมินว่าราคาน้ำมันดิบ WTI น่าจะยังรักษาระดับที่สูงกว่า $50 เหรียญ ไว้ได้ในระยะนี้

ส่วนปัจจัยในประเทศ นอกจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่เป็นบวกจากแนวโน้ม GDP ที่ดีขึ้นตามลำดับ การเข้ามาเก็งกำไรหุ้นในเรื่องผลประกอบการไตรมาส 1 ที่กลุ่มธนาคารเริ่มทยอยส่งงบในสัปดาห์นี้กันแล้ว รวมทั้งตัวอื่นๆที่จะตามมา

ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ สถานการณ์เกาหลีเหนือที่น่าจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และดอกเบี้ยสหรัฐฯที่มีแนวโน้มต่ำอยู่ต่อไป น่าจะทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้น ดัชนีฯมีแนวโน้มดีดตัวกลับ แต่แรงซื้อคาดจะยังไม่สูง เพราะเรามองว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเรื่องของเกาหลีเหนือจบลงแล้ว อีกทั้งนักลงทุนจะต้องรอดูผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดนี้ด้วย (23)

"กลยุทธ์การลงทุนเรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ไว้ หรือเลือกซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ ที่ปรับตัวลงไปมาในวันก่อนจากผลของ Flow บางส่วนที่คาดว่าจะกลับเข้ามาในตลาด หุ้นกลุ่มที่เราให้น้ำหนักการลงทุน เป็นกลุ่ม domestic play หรือ หุ้นที่ถูกคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1 จะออกมาดี สำหรับหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BBL , TCAP , PTTGC , SPALI, AMATA"