GBS มองดัชนีหุ้นไทยก่อนหยุดยาวแกว่งในกรอบ 1,560-1,590 จุด

11 เม.ย. 2560 | 04:03 น.
บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยได้ปัจจัยหนุนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแตะ 76.8 สูงสุดในรอบ 24 เดือน บวกเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง  รวมถึงปัจจัยหนุนเรื่องราคาน้ำมันยืนเหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดดัชนีแก่วงตัวในกรอบ 1,560  - 1,590 จุด แนะเก็งกำไร ในกลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่ง และกลุ่มธนาคารที่กำไร Q1/60 มีแนวโน้มเติบโตเด่น ชู SCB - TISCO ด้านแนวโน้มราคาทองคำ แนะนำให้เล่นรอบในกรอบ sideway ระหว่าง 1,245–1,275 ดอลลาร์ โดยเน้นเล่นฝั่ง long มากกว่า

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยเดือน มี.ค.อยู่ที่ 76.8 ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 24 เดือน การที่รัฐบาลยังสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันปรับขึ้นและยืนเหนือ 52 ดอลลาร์ต่อบลาร์เรล จากความกังวลสหรัฐยิงจรวดถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย และ Foreign พลิกเป็น Net Buy ตั้งแต่เดือนมี.ค.ราว 5 พันล้านบาท

ส่วนปัจจัยกดดันมาจากบรรยากาศการซื้อขายมีแนวโน้มซบเซาเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับความกังวลสหรัฐยิงจรวดถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย และสหรัฐเคลื่อนกองเรือรบมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี และเหตุการณ์ไม่สงบในหลายประเทศ อาทิ เหตุระเบิดโบสถ์คริสต์ 2 แห่งในอียิปต์ เหตุรถบรรทุกพุ่งชนห้างสรรพสินค้ากลางกรุงสต็อกโฮล์ม ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องก่อการร้ายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 12 เม.ย.จีน  เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. วันที่ 13 เม.ย. สหรัฐ  เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย. และในวันที่ 17 - 21 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคารมีกำหนดส่งงบการเงินไรมาส 1/2560

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก  กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงได้แรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าลงทุนต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันที่ขึ้นยืนเหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ อย่างไรก็ตามความกังวลเหตุการณ์ไม่สงบในหลายประเทศ รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์จะเป็นแรงกดดันทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,560  - 1,590 จุด

ทั้งนี้แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในกลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล และกลุ่มธนาคารที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 มีแนวโน้มเติบโตขึ้น แนะนำ SCB และ TISCO

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ  นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า  สัปดาห์ที่ผ่านมามีปัจจัยหนุนราคาทองคำจากบันทึกการประชุมของ Fed ที่ระบุถึงโอกาสที่ Fed จะปรับลดขนาดงบดุลท่ามกลางภาวะดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯที่สูงเกินปกติเมื่อเทียบกับสถิติในอดีต  และเหตุวินาศกรรมในหลายประเทศทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง

แต่การพบปะและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีจีนกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลลดแรงจูงใจในการถือทองคำลง  ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากสถานภาพที่ดีขึ้นของโดนัลด์ ทรัมป์ช่วยหนุนการออกนโยบายใหม่และตัวเลขอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 4.5% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 4.7% มากและเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี  รวมถึงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ให้ผ่านความเห็นชอบของสภาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นลบต่อราคาทองคำในช่วงที่เหลือของเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องความเสี่ยงจากการก่อการร้ายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นและโอกาสที่สหรัฐฯจะเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซียหรือจีนที่ลดลง มีแนวโน้มจะช่วยหนุนราคาทองคำในระยะกลาง  เนื่องจากมีโอกาสที่สหรัฐฯจะเข้าแทรกแซงภูมิภาคต่าง ๆ มากขึ้น  ดังนั้น การลดลงของระดับราคาทองคำในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสในการซื้อคืนหรือซื้อสะสมเพิ่มเติม แต่คาดการณ์การเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดไปอีกสักระยะ เนื่องจากการ breakout ในสัปดาห์ก่อนไม่สามารถยืนที่ระดับ 1,260 ดอลลาร์ได้  โดยปรับกรอบการแกว่งตัวขึ้นเป็น 1,245–1,275 ดอลลาร์  ส่วนเงินบาทที่กลับทิศทางมาอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นผลดีต่อราคาทองคำในประเทศ   จึงแนะนำให้เล่นรอบในกรอบ sideway ระหว่าง 1,245–1,275 ดอลลาร์ โดยเน้นเล่นฝั่ง long มากกว่า