บลจ.กสิกรไทยหั่นเป้าหุ้นปีนี้เหลือ 1,650 จุด

10 เม.ย. 2560 | 09:00 น.
บลจ.กสิกรไทย หั่นเป้าดัชนีหุ้นปีนี้เหลือ 1,650 จุด จากเดิม 1,690 จุด หลังปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน แนะระยะสั้นจับตานโยบายทรัมป์

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2560 อยู่ที่ระดับ 1,650 จุด โดยปรับลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้อยู่ที่ 1,690 จุด เนื่องจากเป็นการปรับตามตัวเลขประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปีนี้ที่ปรับตัวลดลงจาก 105 จุด เป็น 102.5 จุด อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจโลกในภาพรวมมีการฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาจเห็นดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากกว่าที่คาดการณ์

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากการดำเนินนโยบายด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศ โดยคาดว่าในปี 2560 เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวอยู่ที่ 3.0% - 3.6%  ซึ่งแรงหนุนยังมาจากภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่ภาคการส่งออกทยอยฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศโดยเฉพาะจังหวะในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ รวมถึงตลาดส่วนใหญ่ได้มีการรับรู้ไปในระดับหนึ่งว่า FED น่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ทำให้ผลกระทบในเรื่องกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก

ส่วนปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะต้องรอติดตามความชัดเจนในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นคาดว่าผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยจะมีค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากไทยมีสัดส่วนการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่มไปยังประเทศสหรัฐฯและจีนรวมกันต่ำกว่า 10%

"มุมมองในระยะสั้น บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนติดตามประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนมุมมองในระยะกลางถึงยาวมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ"นางสาวธิดาศิริ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้น ได้แก่ กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 (RKF-HI2) ในอัตรา 0.31 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.59 - 31 มี.ค.60  โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 มี.ค.2560  และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 เม.ย.2560 รวมมูลค่า 20.69 ล้านบาท

นางสาวธิดาศิริ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน RKF-HI2 อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยประวัติการจ่ายปันผล นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเป็นต้นมา จนถึงการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ จ่ายเงินปันผลแล้ว 22 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 11.6790 บาทต่อหน่วย และเฉพาะในรอบผลดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 เม.ย. 59- 31 มี.ค. 60) มีการจ่ายปันผลแล้ว 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้นในอัตรา 0.56 บาทต่อหน่วย หรือสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 12.08% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.87% สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐาน  ซึ่งอยู่ที่ 11.89%  และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 5.09%  เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 4.60% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 60)