แนวโน้มโลก:บ้านผลิตไฟฟ้าใช้เอง l วิชัย สุวรรณบรรณ

04 ม.ค. 2559 | 03:46 น.
 

มีหลายคนถามว่าแนวโน้มทางพลังงานที่น่าสนใจของโลกตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไปคืออะไร คอลัมนิสต์ชื่อดังจาก สายข่าว เบรกกิ้งวิวส์ ของสำนักข่าวรอยเตอร์ส นางแคทรีน่า แฮมลิน (Katrina Hamlin) ทำนายว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างถาวรคือบรรดาบ้านหลังต่าง ๆ ทั่วโลกจะหันไปผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น

หมายความว่าหน่วยงานการไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และผู้ขายไฟฟ้าในหลายประเทศ ซึ่งมักจะสุขสบายจากผูกขาดการผลิตและขายไฟฟ้า จะเริ่มไม่สุขสบายเหมือนก่อนตั้งแต่ปีวอกเป็นต้นไป

แคทรีน่า ระบุว่าราคาค่าผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์และแบตเตอรี่ที่มีราคาถูกลงและมีแนวโน้มจะถูกลงไปเรื่อย ๆ จะทำให้บ้านแต่ละหลังตัดสินใจผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้นเรื่อย ๆ

บริษัทเทสล่า ผู้ผลิตรถไฟฟ้าเทสล่า ประกาศแล้วว่าโรงงานผลิตแบตเตอรี่ใหม่ของบริษัท ซึ่งผลิตแบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้านด้วย จะทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง 1 ใน 3 จากที่มีสถิติว่าช่วงปี 2550-7ราคาแบตเตอรี่ลดลงเฉลี่ยปีละ 14 % บริษัทหลักทรัพย์ CLSA วิเคราะห์ว่าราคาแบตเตอรี่จะลดลงอีก 70 % ใน 5 ปีข้างหน้า

ประเทศอินเดียมีปัญหาสายไฟฟ้าไปไม่ถึงทำให้บ้าน 1ใน 5 ของประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ประกาศให้บ้านที่สายไฟฟ้าไปไม่ถึงพึ่งไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์โดยให้เงินอุดหนุน 30 %

ทางด้านบริษัทการไฟฟ้าหลายประเทศอาทิ ออสเตรเลีย กลัวแผงโซลาร์แย่งลูกค้า ตอนแรกใช้วิธีกดดันลูกค้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าไปด้วย ด้วยการเพิ่มค่าธรรมเนียม แต่ไม่ได้ผลทำให้ลูกค้ายิ่งหนีและผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้นจะได้ไม่ต้องซื้อจากการไฟฟ้าเลย สุดท้ายบริษัท AGL Energy และ Origin Energy ยักษ์ใหญ่ขายไฟฟ้าเมืองออสซี่ เปลี่ยนยุทธศาสตร์กลับเป็นมิตรกับลูกค้าด้วยการ ขายแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่เอง

บริษัทขายไฟฟ้าที่ปรับตัวไปช่วยลูกค้าให้ผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น แม้เป็นการทำลายธุรกิจตัวเองแต่คิดว่ายังดีกว่าเสียลูกค้าไปเลย อย่างน้อยยังหาทางขายไฟฟ้าได้บ้าง ตอนที่ลูกค้าเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือจัดการช่วยขายไฟฟ้าให้กรณีที่ลูกค้าผลิตได้เกิน

คุณแคทรีน่า ชี้ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปีวอกเป็นต้นไปว่าเป็นการปฏิวัติของแบตเตอรี่ที่จะทำให้ผู้ผลิตไฟฟ้า ต้องหนาวกันทั่วโลก