รถใหม่กระชากใจปี 2559

10 ม.ค. 2559 | 04:00 น.
ตลาดรถยนต์ไทยเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อโครงสร้างภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่นำมาใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ค่ายรถยนต์จึงต้องพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถประหยัดพลังงาน รถยนต์ไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งล้วนแต่ช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยเติบโตก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน

[caption id="attachment_24875" align="aligncenter" width="500"] Honda-BR-V Honda-BR-V[/caption]

  ฮอนด้า บีอาร์-วี

ค่ายฮอนด้า กำลังสนุกสนานกับการเจาะตลาดเอสยูวี โดยตลาดบนจะเป็นของพี่ใหญ่ ซีอาร์-วี พี่รองจะเป็นเอชอาร์-วี และตลาดคอมแพ็กต์ จะเป็น ฮอนด้า บีอาร์-วี ที่พัฒนาและต่อยอดต่อเนื่องมาจากฮอนด้าโมบิลีโอ โดยฮอนด้าอวดโฉมสปอร์ตครอสโอเวอร์ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อปลายปี 2558 แต่เปิดตัวและเปิดราคาจริงประมาณต้นปี 2559

ฮอนด้าบีอาร์-วี ออกแบบใหม่ให้มีหน้าตาเข้มแข็ง ดุดัน เหมือนเอสยูวีรุ่นพี่ ห้องโดยสารให้กว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม มาพร้อม 2 ทางเลือกของฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งรูปแบบเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งที่พับได้หลากหลายรูปแบบ และเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่งให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างขวาง พร้อมตอบโจทย์การใช้งานที่อเนกประสงค์ เหมือนอย่างฮอนด้าโมบิลีโอ ฟังก์ชันครบเครื่อง ตั้งแต่หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Multi-Information Display) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอแบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน กล้องส่องด้านหลัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติและระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน เช่น ระบบถุงลมคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบ และระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับน้ำมันอี 85 ได้พร้อมจัดเต็มออพชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเอาใจคนไทย ที่จะมาพร้อมกับความแข็งเเกร่งสไตล์เอสยูวี อารมณ์สปอร์ต ด้วยไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟหรี่แบบ LED ส่วนไฟท้ายแบบ LED

[caption id="attachment_24874" align="aligncenter" width="500"] Bentley-Bentayga Bentley-Bentayga[/caption]

 เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า
ค่ายรถหรูแดนผู้ดี อย่าง เบนท์ลีย์ อดใจไม่ไหว หันมาพัฒนารถเอสยูวีหรูหราเอาใจเศรษฐีทั่วโลก ในชื่อ เบนเทย์ก้า (Bentley Bentayga) และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เบนเทย์ก้าได้ชื่อว่าเป็น รถเอสยูวีที่เร็วที่สุด ทรงพลังที่สุด หรูหราที่สุดและเอ็กซ์คลูซีฟที่สุดในโลก รูปลักษณ์ด้านหน้าคล้ายกับรุ่นพี่อย่างคอนติเนนทัล จีทีและฟลายอิ้ง สเปอร์ เสริมหล่อด้วยราวหลังคาอะลูมิเนียม ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างหรูหราตามแบบฉบับของเบนท์ลีย์ ใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพสูงผสมผสานกับลายไม้และวัสดุเมทัลลิก โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้วและเบาะที่นั่งปรับไฟฟ้าได้ถึง 22 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิ ระบายอากาศและระบบนวดตัวเพื่อความผ่อนคลาย

ขุมพลังของเบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า เป็นเครื่องยนต์ วี 12 ความจุกระบอกสูบ 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้พละกำลังมหาศาล 600 แรงม้า และให้แรงบิดจัดจ้านถึง 900 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 4.0 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดถึง 301 กม./ชม. อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 7.8 กม./ลิตร ปล่อยมลพิษไอเสีย 292 กรัม/กม.

[caption id="attachment_24878" align="aligncenter" width="500"] Porche-911 Porche-911[/caption]

 ปอร์เช่ 911

ปอร์เช่ ค่ายซูเปอร์คาร์จากเมืองเบียร์ เปิดศักราชใหม่ก้าวเข้าสู่ปี 2016 ด้วยการเปิดตัว ปอร์เช่ 911 ใหม่ในงานนอร์ธ อเมริกา อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้โชว์ ที่เมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้นกว่า 20 แรงม้า งานออกแบบที่สง่างามยิ่งขึ้น รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ได้รับการพัฒนาใหม่ รองรับทุกรสนิยมความต้องการของผู้ขับขี่ทั้งรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุน พละกำลังใหม่เครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 3.8 ลิตร ในรุ่น 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ให้กำลังสูงสุด 540 แรงม้า ด้วยการปรับแต่งกระบวนการประจุไอดีของชุดฝาสูบ หัวฉีดเชื้อเพลิงใหม่ที่ให้แรงดันได้สูงยิ่งขึ้น สำหรับ 911 เทอร์โบ เอส ให้กำลังสูงสุดถึง 580 แรงม้า ผลจากการทำงานอันเปี่ยมประสิทธิภาพของชุดเทอร์โบใหม่ที่ได้รับการขยายขนาดชุดอัดอากาศ จากประสบการณ์และความชำนาญด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์สมรรถนะสูง โดยปอร์เช่คือค่ายรถรายแรกที่ใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน ในเครื่องยนต์เบนซิน

เครื่องยนต์ใหม่ให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความประหยัดมากกว่าเดิม รถยนต์ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo) S รุ่นคูเป้ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 2.9 วินาทีเท่านั้น สามารถไต่ระดับความเร็วสูงสุดถึง 330 กม./ชม. สำหรับ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 3.0 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. มากกว่ารุ่นเดิม 5 กม./ชม. ไม่เพียงเท่านั้นในรุ่นคูเป้มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 10.99 กม./ลิตร และในรุ่นเปิดประทุนอยู่ที่ 10.75 กม./ลิตร ประหยัดเชื้อเพลิงกว่า 0.6 ลิตรต่อระยะทาง 100 กม.เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม เป็นผลจากระบบควบคุมเครื่องยนต์และเกียร์ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่

รถยนต์ ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ใหม่ ติดตั้งระบบควบคุมช่วงล่างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ PASM เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเข้าถึงและตอบสนองทุกสไตล์การใช้งาน ทั้งการขับขี่สไตล์สปอร์ตและความนุ่มนวลสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับ 911 เทอร์โบ เอส (911 Turbo S) เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ติดตั้งระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) และ เซรามิกเบรก PCCB เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมใหม่ใน 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ด้วยระบบเตือนการเปลี่ยนช่องจราจรด้วยสัญญาณเรดาร์ (radar-based lane change assist) และระบบปรับความสูงของช่วงล่างด้านหน้า ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก หลีกเลี่ยงความเสียหายใต้ท้องรถในกรณีขับขี่ผ่านเส้นทางที่ไม่ราบเรียบในความเร็วต่ำ เช่น เนินลูกระนาด เป็นต้น

[caption id="attachment_24879" align="aligncenter" width="500"] Toyota-Innova Toyota-Innova[/caption]

 โตโยต้า อินโนวา ใหม่

โตโยต้า อินโนวา โฉมใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์จากประเทศอินโดนิเซีย เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งอีกไม่นาน คงได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยอาศัยข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า ที่โตโยต้าสามารถแลกเปลี่ยนรถยนต์ตามแหล่งผลิตต่างๆ ในประเทศกลุ่มเซียนโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งปกติแล้ว ไทยค่อนข้างจะได้เปรียบในการส่งออกรถไปอินโดนีเซียเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องนำเข้าโตโยต้า อินโนวาใหม่ มาจำหน่ายในไทยเพื่อเป็นการถ่วงดุลกัน

รูปโฉมของโตโยต้า อินโนวาใหม่ มีการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัย ลงตัวมากขึ้น โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่, ไฟหน้า โปรเจ็กเตอร์แบบแอลอีดี ตามสมัยนิยม เสริมไฟส่องกลางวันแอลอีดี เดย์ไลต์ ไฟท้ายปรับใหม่แบบแอลอีดี ห้องโดยสารใหม่ปรับใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย หรูหราด้วยมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID , ไฟรอบห้องโดยสาร Illumination LED, ระบบปรับอากาศแยกโซน ให้ความเย็นสบายตลอดห้องโดยสาร ,หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับระบบเชื่อมต่อบลูทูธ โทรศัพท์ไร้สาย ที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน โต๊ะอเนกประสงค์, ระบบปิดประตูท้ายอัตโนมัติ

ขุมพลังของอินโนวา ใหม่ เมดอิน ไทยแลนด์ เป็นเครื่องเดียวกับที่โตโยต้าใส่ไว้ในรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้กำลังสูงสุด 149 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 358 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200 -2,600 รอบ/นาทีส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดจะให้แรงบิด 342 นิวตันเมตร ที่ 1,200 -2,800 รอบ/นาทีนอกจากนี้ ยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I รุ่น 1TR-FE 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที ให้แรงบิด สูงสุด 183 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

[caption id="attachment_24877" align="aligncenter" width="500"] MG-GS MG-GS[/caption]

 เอ็มจี จีเอส

ตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็กต์กำลังมาแรง ค่ายรถเอ็มจี อังกฤษ ที่เซี่ยงไฮ้ ออโต โมทิฟ ไปซื้อกิจการมาจึงไม่รอช้าที่จะอวดรถเอสยูวีรุ่นใหม่ เอ็มจี จีเอส โดยเปิดตัวที่เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ไปแล้ว จึงถึงคิวมาจะเริ่มทำตลาดรุ่นพวงมาลัยขวาที่ประเทศไทย โดยมีความคาดหวังว่า รถรุ่นนี้น่าจะถูกจริตกับคนไทยที่นิยมใช้รถที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายประโยชน์ ด้วยรูปลักษณ์รถยนต์นั่ง 5 ประตู ยกสูง มิติตัวถังยาว 4,500 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,675 มม. ฐานล้อ 2,650 มม.

ดีไซน์ภายนอกดุดัน โฉบเฉี่ยว ไฟหน้าใหญ่ แบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่อสว่างเวลากลางวัน เดย์ไลต์ เสาอากาศแบบ Shark Fin ดูหรูหรา พร้อมสปอยเลอร์หลังห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย แฝงความโออ่า พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ และระบบเชื่อมต่อความบันเทิงไส้สาย บลูทูธ ระบบอินโฟเทนเมนต์ ระบบเสียงคุณภาพ เบาะที่นั่งปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลาย ใช้งานได้อเนกประสงค์ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ

ขุมพลังของเอ็มจี จีเอส มีให้เลือกตามความพอใจและกำลังทรัพย์ เริ่มต้นที่ เครื่องเทอร์โบเล็กขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร รุ่นท็อปสุด จะเป็นเครื่องเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ดุดัน 220 แรงม้า แรงบิดจัดจ้านที่ 350 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์ออโต้คลัชต์คู่

[caption id="attachment_24880" align="aligncenter" width="500"] Toyota-Prius Toyota-Prius[/caption]

 โตโยต้า พริอุส

โตโยต้าเปิดตัว พริอุส โฉมใหม่เป็นครั้งแรกที่งาน โตเกียว มอเตอร์โชว์ ประเทศญี่ปุ่น ช่วงปลายปี 2558 หลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยขายในตลาดทั่วโลก โดยพริอุส ใหม่ เป็นเจเนอเรชันที่ 4 และเป็นรถรุ่นแรกของโลกที่ใช้นวัตกรรม Toyota New Global Architecture (TNGA) ตัวรถยาวขึ้น 60 มม. กว้างขึ้น 15 มม. และต่ำลง 20 มม. จากเจเนอเรชันที่แล้ว โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ทำให้โตโยต้า พริอุส โมเดล 2016 มีแชสซีส์ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมากถึง 60% ในขณะที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำส่งผลต่อการทรงตัวและความสบายในการขับขี่ รวมถึงวางระบบส่งกำลังได้ต่ำลง ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ นอกจากนี้ โตโยต้า พริอุส ใหม่ ยังเลือกใช้ช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนหรือปีกนกสองชั้นทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ

ขุมพลังของ พริอุส ใหม่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร DOHC VVT-i ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า ซึ่งจะให้กำลังสูงสุดที่ 145 แรงม้า และยังประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิม 10% และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีขึ้น 40% รวมถึงแบตเตอรี่แบบ Nickel-Metal Hydride ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้เล็กลงและคงทนกว่าเดิมระบบความปลอดภัยยุคใหม่ ใส่มาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการเปลี่ยนช่องทาง (Lane Departure Alert), ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Pre-Collision), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ (Dynamic radar cruise control), ไฟสูงอัตโนมัติ ซึ่งรุ่นที่จำหน่ายในยุโรปจะติดตั้งอุปกรณ์ช่วยอ่านป้ายจราจรมาให้เป็นพิเศษ

[caption id="attachment_24876" align="aligncenter" width="500"] Mercedes-Benz-SLC Mercedes-Benz-SLC[/caption]

 เมอร์เซเดส เบนซ์ เอสแอลซี

ค่ายดาวสามแฉกจากเยอรมนี เมอร์เซเดส เบนซ์ กำลังสนุกสนานกับการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามขนาดและประเภทให้เข้าใจง่ายขึ้น ล่าสุด โรดสเตอร์สุดหรูรุ่นเล็กอย่าง เอสแอลเค( SLK ) ถูกตั้งชื่อใหม่เป็น เอสแอลซี ( SLC) ซึ่งแทบจะบอกกลายๆว่า ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรถในตระกูลซีคลาส โดยเอสแอลซีโมเดลแรกสุดนี้ ได้รหัสตัวถังเป็น R173 แทนที่ R172 ภาพลักษณ์โดยรวมถึงตัวรถทั้งภายนอกและภายในยังอ้างอิงอยู่กับรหัส R172 แต่มีการเปลี่ยน รายละเอียดบางจุด ไม่ว่าจะเป็น กันชนหน้าพร้อมกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า ซึ่งมีเส้น V-Shape ที่แตกต่างออกไป ไฟท้ายที่ดูสวยและสปอร์ตขึ้น ส่วนภายในห้องโดยสารยังยึดรูปแบบของแผงหน้าปัด และมาตรวัดแบบเดิม แต่มีการตกแต่งด้วยวัสดุที่แตกต่างออกไป

ขุมพลังของเอสแอลซี ให้เลือกอย่างหลากหลายตามความพอใจและกำลังทรัพย์ ตั้งแต่เครื่องยนต์เล็กสุดอย่าง รุ่น เอสแอลซี 180 ใช้เครื่องเบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 226 กม./ชม. เอสแอลซี 200 เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. รุ่นเอสแอลซี 300 เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร เพิ่มกำลังเป็น 245 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. และรุ่นเอสแอลซี 250 ซีดีไอ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. ทุกรุ่นถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G Tronic

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,119 วันที่ 3 - 6 มกราคม พ.ศ. 2559