TPP บีบเปิดตลาดสัตว์ปีกเวียดนาม-ฟาร์มไก่กระอัก

04 ม.ค. 2559 | 03:00 น.
สถานีโทรทัศน์แชลเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญชี้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกท้องถิ่นเวียดนามกำลังจะเจอผลกระทบหนักจากการที่ประเทศเข้าร่วมในข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก-ทีพีพี แต่คนเลี้ยงไก่บ้านเชื่อว่าสู้ได้

รายงานข่าวอ้างผู้เชี่ยวชาญธุรกิจสัตว์ปีกระบุว่า อุตสาหกรรมท้องถิ่นไม่สามารถแข่งขันกับไก่และผลิตภัณฑ์ไก่ที่นำเข้าจากต่างประเทศได้แม้ ผู้บริโภคจะคุ้นเคยและชอบบริโภคไก่ที่เลี้ยงในประเทศมากกว่าไก่นำเข้าก็ตามเนื่องจากเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ในเวียดนามยังล้าสมัยทำให้มีต้นทุนสูง

แชลเนลนิวส์เอเชีย ระบุว่าถึงแม้ไก่นำเข้าจะมีราคาถูกกว่าไก่ที่เลี้ยงในประเทศ แต่คนเลี้ยงไก่ท้องถิ่นของเวียดนามส่วนใหญ่เชื่อว่า อาหารประจำชาติของเวียดนามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเฝอ ยังต้องใช้ไก่ที่เลี้ยงแบบไก่บ้านจึงจะได้รสชาติที่แท้จริงแม้ไก่บ้านจะมีราคาแพงกว่าไก่ที่เลี้ยงแบบอุตสาหกรรมเกือบเท่าตัวและทำให้ผู้เลี้ยงไก่ยังคงอยู่ได้แม้ต้องเปิดเสรีการนำเข้าไก่จากต่างประเทศ

นายเหวียน เฟือง ฮาย (Nguyen Phuong Hai) เชฟชื่อดังของเวียดนามให้สัมภาษณ์ว่า “เนื้อไก่บ้านไม่นุ่มและเหนียวเกินไป หนังกรอบไม่มันขณะที่เนื้อไก่อุตสาหกรรมนุ่มเกินไป เนื้อน่องไม่ชุ่มและซุย ดังนั้นพ่อครัวจึงนิยมใช้ไก่บ้านมากกว่า”

นายฮว่าง แท็ง เวิน (Hoang Thanh Van) อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามมีความเห็นสอดคล้องกับนายเหวียน เฟือง ฮาย โดยให้สัมภาษณ์ว่า “ผู้บริโภคชาวเวียดนามยังนิยมทานเนื้อไก่บ้าน ผมยังเชื่อว่าสำหรับตลาดคนท้องถิ่นแล้ว ผู้เลี้ยงไก่ในประเทศยังสู้ได้ ขนาดคนทำธุรกิจไก่ประเทศอื่นในอาเซียนด้วยกันยังมาสำรวจตลาดเพื่อซื้อไก่บ้านจากเวียดนาม”

อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญธุรกิจไก่เชื่อว่าหลังจากที่ ข้อตกลงทีพีพีมีผลใช้บังคับแล้ว ประเทศสมาชิกข้อตกลงทางการค้าจะสามารถส่งไก่เข้ามาขายในเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ในประเทศต้องรับศึกหนักอย่างแน่นอนเพราะไม่มีหลักประกันว่าคนเวียดนามจะไม่กินเนื้อไก่นำเข้าที่มีราคาถูกกว่าไก่ในบ้าน

แชลเนลนิวส์เอเชีย ระบุว่าผู้เลี้ยงไก่ท้องถิ่นบางส่วนไม่มีความมั่นใจในการแข่งกับไก่จากต่างประเทศ โดยนายเหวียน หง็อก แอง (Nguyen Ngoc Anh) เจ้าของฟาร์มไก่บ้านรายใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้คนเลี้ยงไก่บ้านเจอปัญหาราคาตกอยู่แล้วโดยขณะนี้ไก่เป็นขายได้ในราคา 30% ต่ำกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนเนื่องจากขณะนี้มีผู้เลี้ยงไก่บ้านจำนวนมากทำให้มีการแข่งขันขายตัดราคากันเอง

นายเหวียน หง็อก แอง มองอีกมุมหนึ่งว่าเมื่อข้อตกลงทีพีพีมีผลใช้บังคับนอกจากไก่นำเข้าจะราคาถูกแล้ว อาหารไก่นำเข้าก็จะมีราคาถูกลงด้วยทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไก่บ้านลดลงและ เวียดนามสามารถส่งเนื้อไก่บ้านไปขายต่างประเทศด้วยเช่นกัน แต่ต้องมีการไปทำตลาดไก่บ้านของเวียดนามในตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้เลี้ยงไก่ตามไต้ถุนบ้าน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,118
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 - 2 มกราคม พ.ศ. 2559