เกรย์มาร์เก็ตฮึดสู้! ผุดศูนย์ซ่อมใหม่ ฟรีแรกเข้า-ลดค่าบริการ

23 ม.ค. 2560 | 10:00 น.
ธุรกิจรถหรูที่ดำเนินการโดยผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ตในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ในภาวะซบเซา บางรายถึงกับต้องโบกมือลา โดยพบว่าปี 2559 ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีกว่า 40 ราย ก็ลดลงเหลือ 30 ราย และตัวเลขการขายในปีที่แล้วหายไปกว่า 50 % ทั้งหมดทั้งมวลสืบเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นหลายประการไม่ว่าจะเป็น เงื่อนไขการจัดเก็บภาษีใหม่ของรัฐบาล ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจทำให้ลูกค้าชะลอกำลังซื้อออกไป ปัญหาเรื่องค่าเงินที่มีความผันผวน นอกจากนั้นการที่บริษัทแม่ที่เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทำราคา – แคมเปญที่น่าสนใจ ยิ่งทำให้การขายของเกรย์มาร์เก็ตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มเกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่ๆ ที่ปักหลักกัดฟันสู้ พร้อมวางกลยุทธ์ หรือปรับแนวทางจากเดิมที่เน้นขายแต่ในปัจจุบันพยายามเพิ่มอาวุธด้านการบริการหลังการขาย พร้อมผุดโชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจรให้ครอบคลุม หวังตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

ค่าย “บีอาร์จี กรุ๊ป” ที่เดิมมีโชว์รูม 4 แห่ง ได้แก่ รามคำแหง ,พหลโยธิน,ภูเก็ต,ศรีนครินทร์ ในปีนี้ก็เพิ่มอีก 1 แห่ง โดย “ชลลธร ศรีรัตนประภาส” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอาร์จี กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทเพื่อเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ได้แก่ แจ้งวัฒนะ และ สุทธิสาร

“เราต้องปิดโชว์รูมสาขาพหลโยธิน เนื่องจากมีการทำรถไฟฟ้าและรถค่อนข้างติด ทำให้ลูกค้าเดินทางไม่สะดวก ดังนั้นจึงตัดสินใจปิดและขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ซึ่งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก โดยสาขาสุทธิสารจะรองรับรถวันละ 10 คัน และมีจำนวนซ่อมซ่อม 4 ซ่อง ส่วนสาขาแจ้งวัฒนะ รองรับรถ 20 คันต่อวัน และมี 8 ซ่อมซ่อม แต่หากเป็นสำนักงานใหญ่ที่ศรีนครินทร์ สามารถรองรับรถได้กว่า 30 คันต่อวัน”

ชลลธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการให้บริการหลังการขายจะเปิดโอกาสให้ทั้งลูกค้าที่ซื้อรถกับบริษัทฯรวมไปถึงลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อรถจากบริษัทฯก็สามารถใช้บริการได้ แต่จะมีค่า Fee หรือค่าธรรมเนียมแรกเข้าเริ่มต้นประมาณ 2 แสนบาท แต่ช่วงนี้บริษัทฯมีการทำแคมเปญสำหรับลูกค้าใหม่โดยไม่เก็บค่าแรกเข้า และได้รับส่วนลด 20%

นอกจากนั้นแล้วจะเพิ่มความถี่ของทีมโมบาย เซอร์วิส เพื่อลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆซึ่งตามแผนงานที่วางไว้ในช่วง 1 – 2 เดือนนี้จะมีการไปจัดในจังหวัดสุราษฏร์ธานี และภูเก็ต

“การตลาดจะเน้นหนักไปที่การบริการหลังการขาย ซึ่งตามแผนงานที่ประกาศไว้และยังไม่เดินหน้าก็คือ การเปิดสาขาบางใหญ่ ที่จะชูเป็นศูนย์บริการหลังการขายขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ทำให้การลงทุนอาจจะสูง และทำเลอยู่ไกล ทั้งนี้เราคาดว่ารายได้ในปี 2560 จะทำได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,500 ล้านบาท โดยรายได้จากการบริการจะคิดเป็นสัดส่วน 10 % ของรายได้รวมทั้งหมด”

ขณะที่ “ทีเอสแอล”ที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการ 3 แห่งได้แก่ แจ้งวัฒนะ , ทองหล่อ และภูเก็ต เตรียมเปิดสาขาที่ 4 อย่างเป็นทางการช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยสาขาใหม่จะตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่ ถนนบรมราชชนนี และมีการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท

mp36-3229-b “โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่เปิดเดือนกุมภาพันธ์พร้อมทั้งเปิดกลยุทธ์รีแบรนดิ้งโลโกใหม่ของบริษัท ปัจจุบันทีเอสแอลมีการให้บริการหลังการขายโดยไม่มีการเก็บค่าแรกเข้า”สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิชประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีเอสแอล ออโต้คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว

สำหรับการลงทุนในปีนี้ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่220 ล้านบาท เพราะจะมีการรีแบรนดิ้งสาขาที่เปิดก่อนหน้านั้นแล้ว ให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย มีความไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยบริษัทคาดว่ารายได้จากการบริการหลังการขายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าด้านแผนการทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ส่ง “โตโยต้า รูมมี่” และ “โตโยต้า แทงค์” รถทรงกล่องราคา 1.79 ล้านบาท พร้อมโปรโมชันทองคำหนัก 5 บาทจนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้

“สัดส่วนการขายของทีเอสแอลปีนี้ ยังเป็นรถญี่ปุ่น 70 % และอีก 30 % เป็นรถยุโรป โดยรุ่นใหม่ที่เตรียมทำตลาดมีทั้ง ซีวิค ไทป์ อาร์ , พานาเมร่า, โฟล์ค กอล์ฟ คาดว่าในปีนี้บริษัทฯจะมียอดขายรถใหม่ประมาณ 360- 400 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 360 คัน” สุรีย์ภรณ์ กล่าวสรุป ....

นับเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจของ 2 เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่ ทั้งเน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าด้วยการเปิดโชว์รูมศูนย์บริการแห่งใหม่ พร้อมขยันออกงานเดินสายโรดโชว์ตลอดทั้งปี แต่นี่น่าจะเป็นทางเลือกทางรอดที่ไม่สามารถทำตามได้ทุกค่าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,229 วันที่ 22 - 25 มกราคม 2560