จีนมีทั้งบวกทั้งลบต่อศก.ไทย

23 ส.ค. 2559 | 12:00 น.
ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ออกมาแล้ว ทำให้คนไทยยิ้มขึ้นมาได้บ้างหลังลุ้นอยู่นาน ทั้งนี้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ระบุว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ขยายตัว 3.5% เร่งขึ้นจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 3.2% และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้วจะขยายตัวจากไตรมาสแรกประมาณ 0.8% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกขยายตัว 3.4% โดยสศช.ยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2559 อยู่ที่ 3.0-3.5% หรือค่ากลาง 3.3% แต่มีความเป็นไปได้มากที่จะมีโอกาสขยายตัวในกรอบบนที่ 3.3-3.5% เนื่องจากการประเมินผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังพบว่าอยู่ในวงจำกัด

มีข้อสังเกตประการหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้สศช.เคยกังวลว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีความผันผวนที่เกิดจากเศรษฐกิจจีน และผลกระทบจากกรณีที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ซึ่งปัจจุบันยังมีผลกระทบไม่มากนักต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ดังนั้น เชื่อว่าผลกระทบจากกรณีเบร็กซิท จึงยังไม่น่าจะได้เห็นในช่วงเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็ไม่ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงมากนัก ทั้งนี้หากไม่มีอะไรผันผวนหรือรุนแรงจะทำให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังโตได้มากกว่าครึ่งแรก และเชื่อว่าทั้งปี 2559 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีกว่าปี 2558 แน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าเศรษฐกิจในระดับ 3.3-3.5% น่าจะเป็นตัวที่ทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสในการลงทุนมากขึ้น

ตัวเลขปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 เป็นเพราะการบริโภคครัวเรือนขยายตัวเร่งขึ้นโดยการใช้จ่ายครัวเรือนขยายตัว 3.8 % ขณะที่ไตรมาสแรกขยายตัว 2.3% เป็นผลจากการขยายตัวเร่งขึ้นของรายจ่ายบริโภคสินค้าคงทนโดยเฉพาะการจำหน่ายรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ไตรมาส คือ ขยายตัว 4.8 % ขณะที่การลงทุนรวมขยาย 2.7 % โดยการลงทุนภาครัฐยังคงขยายตัวได้ดีถึง 10.4 %

รายได้ภาคเกษตรกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส โดยสาขาเกษตรกรรมลดลงเล็กน้อยเพียง 0.1 % ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับการลดลง 1.4 % ในไตรมาสแรกปี 2559 และในกรณีฐานคาดว่าการผลิตภาคเกษตรในไตรมาส 3 จะเริ่มกลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาสก่อนที่จะขยายตัวเร่งขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ด้านภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวดีขึ้นที่ 2 % โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ขยายตัว เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ (โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ) ยาสูบ ยานยนต์ อัตราการใช้กำลังผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 64.4% เพิ่มขึ้นจาก 63.6 % ในช่วงเดียวกันของปีก่อน การก่อสร้างภาครัฐขยายตัวสูงต่อเนื่องถึง 15.5 % (การก่อสร้างของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจขยายตัวสูง 15.8 % และ 14.7 % ตามลำดับ) แต่การลงทุนภาคเอกชนลดลง 2 % ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัว 7 % ส่วนด้านการท่องเที่ยวขยายตัวจาก 5 % ในไตรมาสแรกเป็น 8.2 % ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 และรายได้เพิ่มขึ้น 14.7 % หรือคิดเป็นมูลค่า 387.6 พันล้านบาท

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจจีนที่สศช.ได้คลายความกังวลไปแล้วนั้น ผมว่าควรจะกังวลต่อไปครับ เพราะภาพรวมล่าสุดของธุรกิจจีนมีหนี้รวมๆ กันแล้วมากถึง 145 % เทียบกับจีดีพีของจีน เรียกว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วหนี้ธุรกิจของจีนอยู่ในระดับ 100 % เทียบกับจีดีพีของจีน ซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าทางการจีนต้องตระหนักถึงปัญหานี้ และต้องค่อยๆ แก้ปัญหาไม่ให้หนี้เพิ่มมากขึ้น หากไม่แก้ไขเศรษฐกิจประเทศก็อาจจะพังพินาศได้ ซึ่งหากแก้ปัญหาแบบตัดตอนให้เสร็จเด็ดขาดธุรกิจในจีนก็จะล้มระเนระนาด เท่าที่เห็นในขณะนี้จีนก็ชะลอการปล่อยกู้บ้างแล้ว ในขณะเดียวกันผมเชื่อว่าเอกชนในจีนและวิสาหกิจในจีนก็ทราบข้อมูลเหล่านี้ดี ทำให้ทุกวันนี้จึงมีทุนจีนเคลื่อนย้ายเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งเข้ามาลงทุนทางตรง ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในไทย ครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,185 วันที่ 21 - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559