ธุรกิจ Startup เป็นธุรกิจที่เติบโตเร็ว มีการพัฒนาธุรกิจ และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนมองเห็นถึงความหอมหวาน กลมกล่อม น่าลิ้มลอง แล้วก็คิดก้าวกระโดดไปเลยว่า มีไอเดีย ลงมือทำ นำเทรนด์ “ระดมทุน” ขยายตัว บลา บลา บลา...
เชื่อเถอะครับว่าหลายคนมองคำว่า “ระดมทุน” เป็นตัวหนาทะลุกระบอกตาเลย ช้าก่อน เงินลงทุนหาไม่ยากหรอกครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คนที่มีเงินยังไงก็มีเงิน และก็พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อการลงทุนในโครงการ Startup ดีๆเสมอ (ผมก็มีนะมาเสนอสิ 5555) ก็ยุคนี้เป็นยุคคืนความสุขนี่ครับ อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็รีบๆ ทำตามสัญญา แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา อุปส์...
หลังจากผมเขียนบทความฉบับที่แล้วไปมีคนถามมามากมาย คำถามที่เจอเยอะที่สุดคือ Venture Capital และ Angel Investor คืออะไร หาได้ที่ไหน จะได้เงินอย่างไร
นี่อาจเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจครับ Startup ที่ดีต้องเริ่มจากไอเดียแบบว้าว หมายถึง ไอเดียที่ฟังแล้ว “คุณได้ไปต่อ” ไม่ใช่ไอเดียที่ฟังแล้วอึ้ง งง แล้วลากกระเป๋าออกจากบ้านไป
คำถามของคนที่อยากทำ Startup อีกข้อคือ จะทำอะไรดี ใครๆก็อยากรวย ใครๆก็อยากประสบความสำเร็จครับ ก้าวแรกนี่แหละสำคัญที่สุด “ไอเดีย ไอเดีย ไอเดีย”
ที่มาของไอเดียวันนี้ขอเสนอคำว่า “Digital Disruption” คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่มีผลกระทบต่อสินค้าและบริการในรูปแบบเดิมๆ ไม่ใช่แค่ไอเดียต่อยอดนิดๆ หน่อยๆ แต่ต้องเป็น Wow Idea ที่ดูมีความเป็นไปได้
ลองคิดดูถึงชีวิตเราที่เปลี่ยนไป เริ่มจากตื่นเช้าด้วยโทรศัพท์มือถือ (แทนที่จะใช้นาฬิกาปลุก) เช็กสถิติการนอนจากแอพพลิเคชันว่าหลับลึกไปกี่ชั่วโมง (หัวใจหยุดเต้นหรือเปล่า) คำนวณแคลอรีของอาหารเช้าก่อนจะกิน (เพราะลดน้ำหนักแข่งกับเพื่อนอยู่) เรียกแท็กซี่มารับในอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะไปอาบน้ำ (ก็แอพมันแจ้งว่ารถที่เข้าอู่ซ่อม อีก 3 วันถึงจะเสร็จนี่นา) เช็กอี-เมล์ระหว่างนั่งแท็กซี่พร้อมสั่งซื้อของขวัญให้แฟนเย็นนี้ แป๊บเดียวจ่ายเงินผ่าน Online Banking เรียบร้อย
อ้อ...อย่าลืมส่งรูปสวัสดีวันจันทร์ขอให้เป็นวันที่สดใส ไปทักทายในกรุ๊ปไลน์ผู้อาวุโสด้วย เห็นไหมครับว่าชีวิตเราเปลี่ยนไปอยู่บนโลกดิจิตอลทั้งวันเลย
นิตยสาร Forbes เคยนำเสนอว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลแบบแหวกกฎเกณฑ์นี้ถึงได้สำคัญนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอเดีย Startup ผมวิเคราะห์ให้ฟังเพื่อให้ทุกท่านเกิดไอเดียครับ
ประการแรกคือ Pace of innovation ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้เจออะไรดีๆ ใหม่ๆ เร็วขึ้นไม่ใช่แค่การต่อยอด แต่เป็นแบบก้าวกระโดดไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น Increased competition การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันทำลายข้อจำกัดในอดีตทั้งหมด ใครยังยึดกับอะไรเดิมๆ คงไม่ไหว
Personalization of interactions ด้วยความก้าวหน้าของการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analysis) ทำให้เราสื่อสารกับลูกค้าได้ดีขึ้น ไอเดีย Startup หลายอย่างก็ใช้ประโยชน์จากการติดต่อกับลูกค้าแบบเข้าถึง และเป็นการเฉพาะตัวมากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึง Speed of interactions การติดต่อกับลูกค้าที่รวดเร็วขึ้น ต้องทันที เดี๋ยวนี้ และตลอด 24 ชั่วโมง ไอเดียนี้น่าสนนะ เพราะไม่มีใครชอบรออีกต่อไป
และประการสุดท้าย Integration หรือความครบวงจร ไอเดียที่ให้บริการลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ แบบOne stop service หรือครบ จบในที่เดียว ก็เป็นไอเดียที่ประสบความสำเร็จมามากมาย
ใจเย็นๆ ลองหาไอเดียจากรอบตัว เน้น Digital Disruption นี่แหละครับเดี๋ยวรวยแน่นอน Techstartup ก็มาจากแบบนี้แหละ อ้าว!คำศัพท์มาอีกละ เดี๋ยวฉบับหน้ามาเล่าให้ฟังต่อครับ
Photo :
Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,166 วันที่ 16 - 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559