สนามบินซีอานเสียนหยางเอาจริง ประกาศตรวจเข้มนักท่องเที่ยว ‘สิ่งของต้องห้ามนำเข้าประเทศ’

07 พ.ค. 2559 | 08:00 น.
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อที่มากขึ้น สัดส่วนค่าใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศและในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่แตกต่างมากนัก รวมไปถึงความก้าวหน้าของระบบสื่อสารที่ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น ทำให้ในปี 2558 มีชาวจีนที่เลือกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากถึง 120 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ถึง 10 เท่า

 กระแสนิยม "ออกไปเที่ยวเพื่อช็อปปิ้ง" มาแรง

นอกจากเป้าหมายการเดินทางเพื่อพักผ่อนในต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนแล้ว ข้อมูลจากสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน หรือ China Outbound Tourism Research Institute (COTRI) ระบุว่า ชาวจีนยังนิยมการช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง สินค้าแบรนด์เนม เพิ่มขึ้น ผลสำรวจจาก Global Travel Shopping report 2015 ยังชี้ว่า นักท่องเที่ยวจีนกว่า 53.6% มีจุดประสงค์ไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อการช็อปปิ้ง มูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 5,830 หยวน เช่นเดียวกับ TripAdvisor ที่ระบุว่า 41% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมนำกระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษเพื่อบรรจุสิ่งของกลับประเทศด้วยเสมอ

[caption id="attachment_49869" align="aligncenter" width="500"] ตำรวจสุนัขหาของผิดกฏหมาย ตำรวจสุนัขหาของผิดกฏหมาย[/caption]

จากการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนนิยมเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกพื้นเมืองเมื่อเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศ ข้อมูลจากสนามบินซีอานเสียนหยาง ระบุว่า หลังการสำรวจประจำปี 2558 พบว่า มีการตรวจยึด "สิ่งของต้องห้าม" ที่นักท่องเที่ยวนำติดตัวกลับสู่ประเทศได้มากถึง 3 พันรายการ โดยประเภทที่มีการตรวจยึดมากที่สุดได้แก่ ผักและผลไม้สด โดยพบศัตรูพืชมากกว่า 120 ชนิด และศัตรูพืชที่ตรวจพบมากที่สุดได้แก่ แมลงวันผลไม้ (Bactrocera dorsalis) และด้วงมะม่วง (Sternochetus frigidus) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาคการเกษตรของมณฑลส่านซี

ทั้งนี้ การนำสินค้าและสิ่งของต้องห้ามเข้าสู่ประเทศของนักท่องเที่ยวนั้น เมื่อ สำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคตรวจพบ จะทำการกักกันไว้ หรือยึดไว้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก หากสิ่งของถูกกักกันเอาไว้ ผู้นำเข้ามาจำเป็นต้องยื่นเอกสารรับรองที่เกี่ยวและอาจจำเป็นต้องชำระค่าปรับเพื่อนำสิ่งของออกมา หรือหากเป็นสินค้าที่ถูกยึดแล้วจะถูกนำไปทำลายตามกระบวนการที่เหมาะสมต่อไป

จากการสำรวจเที่ยวบินขาเข้าของสำนักงานกักกันและควบคุมโรคประจำสนามบินซีอานเสียนหยาง พบว่ามี 3 สินค้ายอดนิยมได้แก่ ปลิงทะเล รังนกที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป และผงกระดูกม้า จากเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงสารโบท็อกซ์ (Botox) จากประเทศเกาหลีใต้ที่ชาวส่านซีนิยมนำติดตัวเข้าประเทศ ซึ่งผิดกฎหมายเพราะถือเป็นสินค้าในกลุ่มที่รัฐบาลจีนกำหนดว่าต้องเป็นสินค้าที่มีการขออนุญาตนำเข้า

ในส่วนของประเทศไทย ภายหลังข่าวการลักลอบนำเข้าซากสัตว์สตัฟ (จระเข้) ของนักท่องเที่ยวชาวส่านซีรายหนึ่ง โดยเที่ยวบิน OK Airlines กรุงเทพฯ – ซีอาน ซึ่งเจ้าหน้าที่สนามบินได้ยึดไว้เนื่องจากนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ไม่ได้สำแดงเอกสารการตรวจสอบจากสำนักงานกักกันฯ โดยสินค้าดังกล่าวถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ทางการจีนห้ามมิให้นักท่องเที่ยวนำติดตัว โดยผู้ใดหากต้องการนำสินค้าดังกล่าวเข้ามา จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคประจำสนามบินนั้นๆ

รู้ไว้ใช่ว่า เขาห้ามอะไรบ้าง

ตาม "ระเบียบว่าด้วยสิ่งของและผลิตภัณฑ์ต้องห้ามนำติดตัวหรือส่งไปรษณีย์มายังประเทศจีน (The People’s Republic of China prohibit carrying, mailed directory of plants and animal and their products) ของกระทรวงเกษตรประเทศจีน สามารถแบ่งประเภทสินค้าและสิ่งของต้องห้ามนำเข้าได้เป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่

ประเภทที่ 1) กลุ่มสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์

1.1 สัตว์ที่มีชีวิต (ยกเว้นสุนัขและแมวที่อนุญาตให้นำติดตัวได้ 1 ตัวต่อคน และต้องแสดงใบรับรองการตรวจโรคและวัคซีนจากประเทศต้นทาง), สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, สัตว์จำพวกนก, ปลา, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน, แมลง, สัตว์ไร้กระดูกสันหลังและพันธุกรรมจากสัตว์ทุกชนิด

1.2 เนื้อสัตว์ (สุกหรือดิบ) ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์รวมไปถึงเครื่องในสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ

1.3 นมจากสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ครอบคลุมไปถึง นมดิบ นมสด นมเปรี้ยว เนย ชีส ผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป

1.4 ไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่ รวมไปถึง ไข่สด ไข่เยี่ยวม้า ไข่เค็ม เปลือกไข่ ไข่ในรูปแบบของเหลว ซอสจากไข่เค็ม และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากไข่

1.5 รังนก (ไม่รวมรังนกแบบขวดหรือบรรจุกระป๋อง)

1.6 ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันและไขมัน หรือจาก ขา ขน กระดูก เขาของสัตว์

1.7 อาหารของสัตว์ (ครอบคลุมเนื้อผง, กระดูกป่น, ปลาป่น, นมผง, เลือดป่น) ยาแผนจีนที่มีส่วนผสมของสัตว์และปุ๋ยที่มีส่วนผสมของสัตว์

ประเภทที่ 2) พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช

2.1 ผักสดและผลไม้สด

2.2 ใบยาสูบ (ไม่รวมเส้นยาสูบ)

2.3 เมล็ดและต้นอ่อนของพืช หรือส่วนประกอบอื่นๆ ของพืชที่มีโอกาสเจริญเติบโตได้

2.4 ส่วนอื่นๆ ที่มีโอกาสขยายพันธุ์ได้

ประเภทที่ 3) ผลิตภัณฑ์และสินค้าอื่นๆ

3.1 พืช พาหะที่ก่อให้เกิดโรค (เช่น พันธุ์เห็ด) แมลงศัตรูพืชและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นอันตราย รวมถึงส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต (เซลล์ อวัยวะ เลือด) และสิ่งที่ทำจาก ส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต

3.2 ซากสัตว์ที่ตายแล้ว, ซากสัตว์สตัฟและของเสียจากสัตว์

3.3 ดิน

3.4 วัสดุตัดแต่งพันธุกรรม

3.5 พืชและสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ประเทศจีนห้ามมิให้นำเข้าประเทศ รวมไปถึงสินค้าจากพืชและสัตว์อื่นๆ และสิ่งของอื่นๆ ที่เป็นสินค้ากักกัน

 บทส่งท้าย

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่นับวันจะยิ่งมีปริมาณและอำนาจในการจับจ่ายเพิ่มสูงขึ้น แม้กรณีที่เจ้าหน้าที่สนามบินตรวจยึดสิ่งของต้องห้ามนั้นจะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ดี เหตุการณ์เหล่านี้ถือเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการส่งเสริมกลุ่มสินค้าไทย ที่มีเอกลักษณ์และไม่ขัดต่อกฎระเบียบของทางการจีน เช่น สินค้าหัตถกรรมและโอท็อปอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการนำเสนอภาพลักษณ์และบริการการท่องเที่ยวด้านอื่นๆ ของไทยให้ชาวจีนได้รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสารการค้า-การลงทุน รวมถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดด้านเศรษฐกิจของจีนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน http://www.thaibizchina.com หรือช่องทางใหม่ที่เพจ www.facebook.com/thaibizchina

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,153 วันที่ 1 - 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559