วัคซีนวาระแห่งชาติ

12 พ.ค. 2564 | 07:30 น.

วัคซีนวาระแห่งชาติ : บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3678 ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค.2564

รายงานของกรมควบคุมโรคถึงจำนวนการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 สะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 10 พ.ค. 2564 รวม 1,898,454 โดส ใน 77 จังหวัด โดยมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 1,365,992 รายและผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จำนวน 532,462 ราย ซึ่งคิดเป็นจำนวนที่น้อยมากของการได้รับวัคซีน เมื่อเทียบสัดส่วนจำนวนประชากรที่ต้องได้รับวัคซีน

ปมประเด็นปัญหาเกิดจากต้นทางประการแรก จากการได้รับวัคซีนในจำนวนน้อยมาก โดยเฉพาะช่วงแรกได้วัคซีนมาแค่ 200,000 โดส หลังจากนั้นได้มาอีก 800,000 โดสล็อตแรกในต้นเดือนเม.ย.ก่อนทะยอยนำเข้าวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดรวมประมาณ 3.5 ล้านโดส  

ประการถัดมาหลังจากได้วัคซีนแล้ว การบริหารจัดการวัคซีนหรือกระจายฉีดให้กับประชาชน ค่อนข้างสับสนในระบบการลงทะเบียน การจองสิทธิ์การฉีดวัคซีน ตลอดจนข้อมูลข่าวสารที่สับสน สร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนนำไปสู่การลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน ในจำนวนน้อย ประการถัดมาเรื่องบุคลาการในการฉีดวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลังการประชุมครม.เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องวัคซีน โดยยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินการอย่างครบวงจร ทั้งการจัดหาการกระจาย รวมไปถึงการฉีดเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทย โดยขอเชิญชวนประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน โควิด-19 ให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และรับรองว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำเข้ามา ได้รับรองคุณภาพประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและขณะนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก มีการฉีดวัคซีนไปแล้วหลายสิบล้านคน

เราเห็นด้วยกับรัฐบาลในการยกระดับวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ โดยต้องบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดการปัญหาวัคซีน โดยเฉพาะการกระจายวัคซีน ที่ต้องอาศัยกลไกท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม โดยอาจพิจารณาจัดสรรวัคซีนและการฉีดไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมทั้งเปิดลงทะเบียนให้หลากหลายช่องทางมากกว่าหมอพร้อม หรือแม้กระทั่งการเปิดทางให้ประชาชนสามารถเดินเข้าไปในจุดฉีดวัคซีนและสามารถรับวัคซีนได้ทันที ก็จะเป็นประเด็นที่รัฐควรพิจารณา

นอกจากนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยให้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา นักวิทยาศาสตร์ ออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน มากกว่าการให้ข้อมูล ที่สร้างความสับสนจากแพทย์หรือผู้ไม่ได้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และหากทุกฝ่ายตกผลึกร่วมกันแล้วว่าวัคซีนเป็นทางออกเดียวของประเทศ บรรดาผู้ที่ไม่ได้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ก็ไม่ควรแถลงให้เกิดความสับสน สร้างความปั่นป่วน ขัดขวางเส้นทางในการก้าวออกจากวิกฤติของประเทศ