Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

08 พ.ค. 2564 | 04:05 น.

 

ลาครอสมันไม่ใช่เสื้อลากอสท์ (LACOSTE) ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันทางพาณิชยศาสตร์ว่าเสื้อของแท้นั้น_โลโก้จระเข้สีเขียวจะอ้าปากไปทางซ้ายหรือทางขวา (ฮา) เเต่มันเปนกีฬาประหลาดที่เขาฟาด_เขาเขวี้ยง เดินวิ่งชิงเกมส์รุกรับกันอย่างสนุกปลุกประสาท

เกมส์ลาครอส_อาจจะเหมือนฟุตบอลตรงที่มีลูกกลมๆหนึ่งลูก ที่หลายคนเล่นต้องชิงกันให้บอลเข้าประตู และมันอาจจะเหมือนฮอกกี้ตรงที่มีไม้ ฮอกกี้ใช้ไม้ตี แต่ลาครอสใช้ไม้เหวี่ยง ฟาดเหวี่ยงเขวี้ยงลูก! 

เมืองไทยคนนิยมเล่นลาครอส ท่านว่ามี แต่รวมตัวกันได้ยากและโดยมากเป็นนักเรียนเก่าอเมริกัน มือเก๋าก็อย่างคุณจุตินันท์ภิรมย์ภักดี นั่นเล่นตั้งแต่ที่อเมริกาเมื่อสักสามสิบปีก่อน อ่ะทีนี้ในสถานการณ์ที่มีกันอยู่สองคนสามคนจะไปรวมทีมเล่นกะใคร?

ที่ฮ่องกงมีความนิยมเล่นลาครอสกันมาก ทั้งเล่นกันแต่ยังเยาว์ ไม่จำกัดอยู่แต่เพศชายหรือหญิง นานมาแล้วคนไทยรวมทีมกับฝรั่งอเมริกันได้ครบสิบกว่าคน เคยนัดกันไปเล่นที่สนามฮ่องกงเนื่องเพราะในเขตเอเชียนั้น ฮ่องกงเขาเปนเต้ยในกีฬาสนามชนิดนี้

 

Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

วันนั้นนั่งรถใต้ดินไปจนถึงสนามแข่งตามโพยที่ทีมไทยแจ้งมาปรากฏว่าเป็นสนามฮ็อกกี้ปูพื้นหญ้าเทียมเตียนดีน่าเล่น ชื่อว่า King’s Park Sports Ground อยู่ละแวก ปริ้นซ์เอ็ดเวิร์ด ยามเข้านั่งที่อัฒจันทร์สังเกตว่ามีโครงฟองน้ำกันลูกกระแทกเข้าคนดูด้วย และบริเวณใกล้ประตูมีตาข่ายขึงด้านข้างกันลูกหลุด รอบคอบดี

ทีมไทยมาพร้อมกันแล้วกัปตันว่า

เมื่อวานได้ไปซ้อมกันให้ชินสนามเหย้าเขาบ้างแล้ว ทุกคน อยู่ในชุดลงแข่งมีหมวกกันน็อกพร้อมในมือถืออุปกรณ์การเล่นคล้ายตะกร้อสอยมะม่วง สังเกตดูผู้เล่นทั้งสิบคนถือไม้นี้ทุกคนไม่เว้นผู้รักษาประตู หากแต่ไม้ที่ถือมีลักษณะต่างกันที่ความยาวและปากตะกร้อ กล่าวคือ กองหน้ากับกองหลังถือไม้ปากตะกร้อหน้ากว้างเท่ากันแต่กองหลังได้ก้านไม้ยาวกว่า ส่วนผู้รักษาประตูถือไม้ปากตะกร้อหน้ากว้างที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับทุกคน

Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

การเล่นเขาเล่นฝ่ายละ 10 คน มาเขี่ยบอลกันที่กลางสนาม คนที่เขี่ยได้มักได้บอลไปตุงตาข่ายไม้ตะกร้อของตน_ซึ่งถ้าคนที่ไวอาจฟาดเขวี้ยงลูกในตะกร้อของตนไปใส่เพื่อน, เพื่อให้เพื่อนใช้ไม้ตะกร้อของตนเองรับลูกที่ถูกเฟี้ยง(อ่านง่ายและเห็นภาพกว่า ว่าไหม?) มาด้วยความเร็วและแรง, ตั้งหลักและเพื่อนนั้นก็ฟาดเขวี้ยงต่อไปหาเพื่อนอีกคน ทำอย่างนี้เป็นทอดๆจนไปจบที่การเฟี้ยงใส่ประตูฝ่ายตรงข้าม ซึ่งผู้รักษาประตูต้องรับด้วยตะกร้อปากกว้างของตนเอง รูปไม้ตะกร้อนำมาให้ดูดังด้านล่างนี้

บางครั้งหากจังหวะไม่อำนวย ผู้เล่นอาจวิ่งถือไม้ที่มีลูกตุงตาข่ายของตนไปมาก็ได้ เมื่อได้จังหวะค่อยฟาดเขวี้ยง ไอ้ที่สนุกสะใจของคนดูมันก็นอกจากความไวของการเขวี้ยงและการรับที่แม่นยำของผู้เล่นแล้วก็คือฉากการปะทะกัน เพื่อแย่งลูก ไอ้การดักแย่งลูกกลางอากาศนั้นก็พอมีบ้างแต่โอกาสมันน้อย ฉะนั้นจึงบางทีใช้ไม้วิ่งไล่ตีกัน (ไม้ตีไม้) บางคนเอาไม้แหย่พุงคนครองลูก บางทีไล่ฟัดกันไปตีกันหน้าประตูก็มี ตีหน้ากากผู้รักษาประตูก็มี  หรือ วิ่งไม่ทันก็เอาไม้ไล่ตีตูดกันก็เห็นบ่อย สงสัยว่าโกรธที่แย่งลูกไม่ได้ถึงมาตีระบายแค้น

ทีมฮ่องกงสวมชุดสีแดงมีสัญลักษณ์เป็นมังกรดั้นเมฆทีมไทยวันนั้นใส่ชุดน้ำเงิน สิ้นเสียงนกหวีดต่างก็งัดสารพัดเทคนิฆมาเล่นกัน กีฬานี้ผู้เล่นสามารถอ้อมหลังประตูได้ด้วย สนุกชะมัดเพราะผู้รักษาประตูต้องพะวักพะวงทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ในการป้องกันประตู สังเกตดูว่าเกมรุกนั้นกองหลังจะร่วมรุกก็ได้ไม่ว่ากันแต่ถ้าเป็นเกมรับกองหน้าสามตำแหน่งจะไม่ลงมาช่วยรับ บางครั้งเวลาตั้งรับกองหลังทั้งทีมไปกระจุกอุดหน้าประตูตัวเองก็มี

 

Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

ทีมฮ่องกงเป็นเด็กรุ่นๆทั้งนั้น ฝีเท้าจัดมาก โดยเฉพาะหมายเลข 7 ลำตัวบางและไม่สูงมาก สามารถวิ่งได้ไวปรู๊ดปร๊าดมากจนผู้ชมไม่แน่ใจว่าเป็นคนหรือแมวกันแน่ ตั้งชื่อกันว่า The cat สามารถทำคะแนนได้ดี เขาคนนี้สมควรได้รับคำชมเพราะเล่นได้เป็นสุภาพบุรุษมากไม่ตีไม่ปะทะเลย

แต่อย่างไรก็ดีมีข้อสังเกตว่านักกีฬาที่มีรูปร่างเตี้ยล่ำนั้นแม้วิ่งได้ไม่เร็วแต่สามารถเข้าปะทะแย่งลูกได้เป็นอย่างดี ทั้งปะทะด้วยไม้และเอาไหล่กระแทก ทราบว่าบางคนเป็นนักรักบี้มาก่อน

น่าสนใจว่ากรรมการของเกมจะไม่เข้าใกล้ผู้แข่งขันโดยเฉพาะเมื่อปะทะกัน (แน่หละ_ เข้าไปเปนได้โดนปลายไม้สอยปลายคาง ก็อาจได้เจอกันอีกทีที่วัดแถวปลายศาลา เพราะกรรมการไม่ใส่เครื่องป้องกันร่างกาย)

หากมีการเล่นฟาล์ว หรือตีกัน กระแทกกัน กรรมการจะใช้วิธีเขวี้ยงผ้าเหลือง (ก็บอกแล้วว่าเกมส์นี้มันมีแต่เขวี้ยง) ผ้าเหลืองนี้จะผูกทิ้งถ่วงไว้เมื่อขว้างแล้วจะลอยไปหล่นตรงบริเวณพิพาทและตกลงมาอย่างร่มชูชีพดูหรูดี ผู้โดนใบเหลืองต้องออกนอกสนามชั่วคราว ทำให้เหลือผู้เล่นฝั่งตัวเองน้อยลงเป็นการเสียเปรียบคู่ต่อสู้เมื่อถึงเวลากำหนดจึงเข้ามาเล่นใหม่ได้ ซึ่งอาจถูกนำไปไกลแล้วเพราะเป็นกีฬาที่เล่นกันเร็วมากจริงๆ ขว้างลูกกันว็อบแว็บๆ เข้าประตูซะแหล่ว เข้าใจว่าในเกมส์ใช้กรรมการสองคน

Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

Lacrosse ฟาด+เขวี้ยง= เฟี้ยง

วันนั้นกัปตันไทยสามารถเขวี้ยงลูกเข้าประตูได้เป็นลูกที่สองส่งผลให้ทีมไทยนำฮ่องกงไปได้แลกกับการที่เอ็นข้อศอกฉีกจากการปะทะเพราะทางฮ่องกงวางตัวหมายเลข 8 ประกบแกไว้ตลอดเวลา มีการแหย่ไม้ขัดขวางและหักทางกันตลอด ต้องใช้การควบคุมอารมณ์อย่างดีเพราะการที่คนคนหนึ่งโดนไม้แหย่อยู่ตลอดมันจะต้องหงุดหงิดเปนธรรมดา [ ดูเสียอย่างหมีในกรงที่ตาหนูหล่อเอาไม้แหย่นั่นปะไร_หันมาตะปบกันง่ายๆจนต้องทาบริบูรณ์บาล์ม ] ผลการปะทะครั้งนี้ทำให้ต้องกลับมาใส่เฝือกที่เมืองไทย

ไรอันหัวหน้าโค้ชฝ่ายไทยลงเล่นด้วย แกตัวสูงผอม ถือไม้ที่มีลูกในตาข่ายวิ่งบุกเข้าไปหน้าประตูอ่องกงเอาดื้อๆ ทีมฮ่องกงเห็นนึกว่าคนบ้าเอาไม้ตีก็แล้วแหย่ก็แล้วยังไม่หยุด เลยปล่อยให้ไรอันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปถึงหน้าประตูแล้ว เหวี่ยงไม้สะบัดลูกเข้าประตูไปซะอย่างงั้น

เมื่อหมดเวลาปรากฏว่าทีมเยือนเปนฝ่ายชนะได้ถ้วย และมีการถ่ายรูปร่วมกันตามระเบียบ เพิ่งสังเกตว่าทางฮ่องกงเองมีผู้เล่นรวมตัวสำรองแล้วไม่ถึง 30 คนแต่หมายเลขเสื้อแข่งพุ่งไปถึง 99 น่าเชื่อว่ามีคนเล่นของกันบ้างหละ เมื่อสองฝ่ายแยกย้ายกันแล้วทางฮ่องกงเขาก็เล่นกันเองต่อ เอ้อ เราแค่ดูยังลุ้นซะเหนื่อยสงสัยเขาจะมีของบำรุงกำลังทำให้พลังเหลือเฟือ เกมส์นี้เขาถือว่าเป็นนัดกระชับมิตร หรือ Friendship Match ก็เล่นกันสี่ควอเตอร์ ใช้เวลารวมทั้งเกมส์ร่วมสองชั่วโมง ไม่ได้สังเกตเวลาด้วยว่าเกมสนุกเร้าใจยิ่งกว่าฟุตบอลโลก และตั้งใจว่าต่อไปจะหันมาเป็นแฟนลาครอสแทนเพราะมันไวและ ปลุกประสาทดี แถมมีการปะทะกันด้วยพอหอมปากหอมคอ (ตามสันดานดิบของมนุษย์ที่ชอบคนตีกัน) เห็นทีเราเอานักมวยมาแข่งทีมชาติลาครอสในอนาคตท่าจะดีแน่ ก็ชาติเราเป็นมหาอำนาจทางมวยอยู่ ในยุคผสมผสานเผลอๆจะเป็นแชมป์โลกลาครอสกันได้ง่ายๆ ทำเป็นเล่นไป แต่ต้องมีตัววิ่งเร็วผสมด้วย ม่ายงั้นวิ่งไล่กันไม่ทัน สนามลาครอสอาจจะกลายเป็นสนามมวยแก้หงุดหงิดได้ วัดวากันทีละ 10 คู่ก็คงสนุกไม่หยอก

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 23 ฉบับที่ 3,677 วันที่ 9 - 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564