***หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3668 ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.2564 ....กาแฟขมรายงานตัว
***หนักหน่วงสาหัส โควิดระลอก 3 คลัสเตอร์ใหญ่มาจากสถานบันเทิง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เองก็งงงวย เอายังดีหว่า จะปิดสถานบันเทิงอีกหรือไม่ก็ยังไม่ชัด ละล้าละลัง ที่แน่ๆ จุดใหญ่ที่เกิดไม่ว่าจะรอบ 2 -3 สถานบันเทิงมีเอี่ยวทั้งสิ้น รอบนี้สถานบันเทิงในกทม.ทั้งย่านทองหล่อ เอกมัย จตุจักร และรัชดาฯ แถมปริมณฑล จ. ปทุมธานี จ.นนทบุรี สถานบันเทิงที่ศาลายา จ.นครปฐม ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์เดียวกันถึง 71 ราย พบการเชื่อมโยงในสถานบันเทิง ที่ขณะนี้มีการกระจายไปในหลายจังหวัด นครปฐม ปทุมธานี เลย ชลบุรี เชียงใหม่ ปัญหาเกิดจากสถานที่ระบายอากาศไม่ดี เพดานต่ำ อากาศปิด เข้าสถานบันเทิงต้องพูดคุยใกล้ชิด กิน ดื่ม ชิดใกล้ พูด ไอ จาม หัวเราะ ตะโกน และที่ลามหัวค่ำไปติดเชื้อที่ผับนี้ ตกดึกไปต่อที่ผับนั้น ก็กระจายกันว่อน ศบค.ขอความร่วมมือ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ตั้งการ์ดระดับสูงสุด
***คราวนี้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง มีการท่องเที่ยวเดินทาง แต่ก่อนสงกรานต์ก็มีเดินทางบ้างแล้ว ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงกรุงเทพฯ ไปตรวจพบเชื้อที่จ.เชียงใหม่ หลังจากปลอดโควิดมา 83 วัน ก็มาอีกจนได้ ช่วงเทศกาลมีการเดินทางข้ามจังหวัด แน่นอนต้องแออัดในระบบขนส่ง รถไฟ รถบัส เครื่องบิน ตามสถานีเหล่านี้ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่คิดว่าไปท่องเที่ยวแล้วเผลอเรอ ไม่สวมหน้ากากไม่ป้องกัน ฉะนั้นและฉะนี้ต้องเฝ้าระวังสูงสุด โดยเฉพาะในร้านอาหาร คนไปเที่ยวไปดื่มไปกิน ต้องดูแลเข้มงวดหน่อย การ์ดต้องไม่ตก
*** ฟัง หมอธีระ วรธนารัตน์ จากแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ท่านว่า ควรยอมรับความจริงเสียทีว่า “คุมไม่อยู่” ไม่ใช่แค่กทม. แต่รวมถึงจังหวัดอื่นด้วย หากรับความจริง ย่อมรู้ว่านโยบายและมาตรการที่ถูกต้องเหมาะสมนั้นควรทำเช่นไร แต่หากยังทู่ซี้ต่อไป จะระบาดหนักหน่วงได้ ประชาชนควรตระหนักถึงสถานการณ์จริง และป้องกันตัวอย่างเต็มที่ ร้านอาหารที่มีคนเยอะๆ ควรระวัง ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า ผับบาร์ สถานบันเทิงต่างๆ บุคลากรทางการแพทย์หลายรายหลายที่ สังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงคนใกล้ชิด มีไปผับ ไปห้าง ไปคอนเสิร์ต เหล่านี้คือสัญญาณชัดเจนว่า การแพร่ระบาดกระจายไปทั่ว ต้องระวังงานแต่ง งานบวช งานวัด งานประเพณี รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว และโรงแรมที่พักต่างๆ ขอให้ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด งดการตะลอนท่องเที่ยว สังสรรค์
*** ว่าด้วยการเดินทางท่องเที่ยว ประมาณการออกมาแล้ว จากบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายนจะมีการเดินทางรวม 8,754 เที่ยวบิน เฉลี่ย 1,250 เที่ยวบินต่อวัน และตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้จะมีเที่ยวบินรวม 36,150 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นเกือบ 7 % จากเดือนมี.ค. รวมทั้งต่างชาติที่เข้ามาในโซนที่รัฐบาล ได้ฉีดวัคซีนแล้วและมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบ ในพื้นที่ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา (ชลบุรี) กระบี่ พังงา และเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) ทำให้มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีปัญหา บทว.พร้อมรองรับจำนวนเที่ยวบินได้ถึง 3,000 เที่ยวต่อวัน
*** การเดินทางท่องเที่ยวปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม แต่ด้วยความที่อัดอั้นมานาน สายการบินก็ออกโปรโมชั่นจูงใจ แต่สายการบินต่างชาติ อย่าง “เวียตเจ็ท” ที่เข้ามาบินในประเทศ ขาดความรับผิดชอบทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อน ดูข้อความชวนเชื่อเขา ลดกระหน่ำ 4/4 Fly Green Sale กับเวียตเจ็ต 540 บาท เห็นราคาไหนจ่ายราคานั้น โปรโมชั่นทุกเส้นทางทั่วไทย แต่ปรากฏว่าจองเสร็จสรรพเดินทางถึงสนามบินกลับถูกแจ้งเลื่อนจากเช้าเป็นบ่าย เป็นค่ำ หรือเป็นวันอื่นก็มี แล้วไม่มีการเยียวยาใดๆ เสียงโอดครวญอึงมี่กับสายการบินนี้ เจ้าหน้าที่สนามบินต้องพูดขอโทษและทนเสียงก่นด่าตลอด 4-5 ชั่วโมงที่ดีเลย์ และไม่ใช่ครั้งแรกๆ ที่ดีเลย์ 4-5 ชั่วโมง หลายคนเจอ 2-3 รอบแล้ว เทกันกลางดึกก็มี บางรายบอกเข็ดหลาบ ดีเลย์เก่ง เลื่อนไฟล์เก่ง แถมติดต่อคอลเซนเตอร์ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ เห็นใจกันบ้างเถอะ
***สายการบินชี้แจงว่าที่เลื่อนเพราะเหตุผลด้านปฏิบัติการบิน สายการบินได้ดูแลจัดอาหาร เครื่องดื่ม คูปองอาหาร จัดหาที่พักหากจำเป็น การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินเป็นไปเพราะความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน และได้แจ้งผู้โดยสารแล้ว ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ ปรากฏว่าผู้โดยสารบอกว่าไม่ได้รับตามที่ชี้แจง บางรายอาจได้รับ แต่ที่แน่ๆ ดีเลย์ 4-5 ชั่วโมง แผนผิดเพี้ยนหมดและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม บางรายนัดแนะเช่ารถจ่ายเงินแล้ว จองมัดจำแล้ว เมื่อลงจากเครื่องไปเช่ารถเพื่อเดินทางต่อ แต่ปรากฏผิดเพี้ยนไปหมด ถ้าเลื่อนไปอีกวัน ก็ถูกริบมัดจำ เสียเงินเพิ่มอีก หรือต้องจ่ายค่าเสียเวลาบริษัทรถเช่า ก็ต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมปล่อยให้เกิดเช่นนี้บ่อยๆ ได้อย่างไร ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องเข้ามาบิน ผู้โดยสารบางรายว่า
*** สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ที่มีหน้าที่ดำเนินการจัดสรรสิทธิการบินและการอนุญาตการบินแก่อากาศยานและสายการบินของไทย และต่างประเทศ กำกับดูแลการจัดเก็บค่าโดยสาร และค่าระวางของอากาศยานขนส่ง กำกับดูแลตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานของผู้ประกอบการเดินอากาศ และการใช้อากาศยานส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย อนุสัญญา ความตกลง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการบินพลเรือน หน่วยงานใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม จะเข้ามาดูแล กำกับ สั่งการ ตรวจสอบ เรื่องแบบนี้กันบ้างไหม หรือไม่รู้เรื่องราว สักแต่ให้ใบอนุญาตถ่ายเดียว หากสายการบินไม่ทำตามข้อกำหนด เคยคิดจะทำอะไรในฐานะผู้คุมกฎให้ความเป็นธรรมกับประชาชนบ้างไหม หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จะทนให้ประชาชนเดือดร้อนมากกว่านี้เชียวหรือ...