คลัภย์ 3 : วิธีทำคลัภย์

06 มี.ค. 2564 | 02:00 น.

 

(ต่อจากตอน 2)

 

อีทีนี้ในทางกลับกัน ยามประดาผู้ดีเมืองหลวงจะไปเที่ยวเยี่ยมหาเพื่อนผู้ดีละแวกบ้านนอกกันบ้าง เพื่อนเศรษฐีผู้เพิ่งจะถูกปฏิเสธกีดกันไม่ให้เข้าร่วมสโมสรผู้ดีแห่งลอนดอน เขาก็ไปตั้งวงเอาคืนกันอยู่แถวนั่น โดยหว่านเงินที่ทำมาหาได้ด้วยลำแข้งและโชคชัยรวบรวมเอาที่ดินจากประดาผู้มีชื่อแถวนั้นมาทำสนามกอล์ฟมั่ง สนามยิงไก่ ยิงพิราบดินเผามั่ง แล้วตั้งคลัภย์สวมลงไปในสถานแห่งนั้น จากนั้นจึงขนานนามไปว่า “COUNTRY CLUB” ยามเมื่อจะไปลงเล่นกะเขา เขาจักเอ่ยปากถามผู้ดีลอนดอนว่า มีเงินสักก้อนไหม_ค่าสมาชิกตลอดชีพตกราว สามสิบล้าน อุย!

เพื่อคอยกีดกันผู้ดีเก่าซึ่งบัดนี้ยอบแยบ มิให้มาร่วมวงศ์ไพบูลย์กันได้ คอยเลือกเฟ้นเฝ้าหาแต่ประดาผู้มีจริตเดียวกันพกสตางค์ฟ่อนๆมาสมาคมกันอย่างนั้นแล ธรรมเนียมนี้ลามต่อไปในหมู่ผู้ดีอเมริกา ก็แน่สินะเขามีเชื้อข้ามทะเลมาแต่อังกฤษนี่

พวกประดาคลัภย์เหล่านี้ต่อมาก็ผนวกเอาความชอบในกีฬา กรีฑา ละเม็งละคร เข้ามาใส่ เกิดเปนสิ่งชนิดว่าเปนชมรม เปนสโมสรแต่ว่าจำจะต้องมีที่ตั้งถาวรจึงจะเปนคลัภย์ได้ ที่พัทยานี้ก็มีสโมสรเกี่ยวแก่เรือใบ ให้บริการอย่างว่าเปนคลัภย์ปิด คือให้บริการแก่สมาชิกเปนหลัก เช่น ที่ราชวรุณเล่นเรือ ที่พัทยา

 

ขับรถไปตัดต้นไม้

อันว่าคลัภย์เหล่านี้ ตามที่ได้เล่าเเล้วว่ากว่าจะเป็นสมาชิกได้ ต้องผ่านกฎเหล็กที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาล เปนกฎเหล็กแบบว่าใช้ระบบกลั่นกรอง (SCREENING RROCESS) อันถือเปนจารีตลักษณะที่ยึดถือกันมานานจนปัจจุบัน เพื่อเจ้าถิ่นเขาได้เลือกเฟ้นบุคคลที่มี SOCIAL BACKGROUND ดีพอจะเปนเกียรติเปนศรีแก่ปวงเขา

คันทรี่คลับอเมริกา

ขั้นแรก : คนอยากจะเข้าไปในคลัภย์ปิดต้องไปหาสมาชิกเก่ามาให้ได้สักสองคนก่อน ซึ่งสองคนนี่ต้องเปนสมาชิกมาไม่ต่ำกว่าสิบปี อันนี้เขาเรียกว่าผู้นำเสนอ_ PURPOSER (s)

ผู้นำเสนอสองคนนี้ถ้าว่าเขาชอบใจเรา เขาก็จะต้องแนะนำประวัติชีวิตและการทำงานของเราแก่ทางคลัภย์ว่าเหตุไรคลัภย์จึงสมควรได้เราไว้เปนสมาชิก เขานำเสนอให้แล้ว เราก็ต้องหอบใบเสนอนี้ไปหาคนอีกพวกหนึ่ง เรียกว่า SECONDER _ผู้ค้ำดีล ซึ่งถ้ามี SECONDER สักสองคนก็จะดี เขาเหล่านี้มีหน้าที่ค้ำประกันว่าเราและ PROPOSER ไม่มั่ว!

ขั้นสอง : ได้เอกสารจาก ผู้ค้ำครบแล้วก็ส่งไปยังสภาเจ้าถิ่นที่เขาเรียกว่า CLUB OFFICIALลงเลขรับ แลจัดลำดับคิวยื่นซึ่งอาจต้องกินนานเวลาประมาณ 3-4 ปี  (ถ้าหากคิวยาว) กว่าสภาเจ้าถิ่นจะพิจารณา ให้รายชื่อที่ผ่านด่านไปปรากฏบน BOOK

อีทีนี้เมื่อได้ชื่อขึ้น BOOK แล้ว มันก็ยังมิจบสิ้น ถ้าว่าเปนคลัภย์ชนิดกีฬา เขาก็จะกำหนดว่า ภายในหนึ่งเดือนผู้ปรากฏชื่อใน BOOK จะต้องล่าลายเซ็นของสมาชิกเจ้าถิ่นเดิมให้ได้สักเช่น 20 เจ้า พร้อมกับ กรรมการ 5 คนในกีฬาแต่ละประเภท_บร้ะ!

บางคลัภย์มีกีฬาอยู่ 12 ประเภท ก็คูณจำนวนเข้าไปเสีย-น่านล่ะ อย่างง้าน

 

คลัภย์ 3 : วิธีทำคลัภย์

ถ้าเกิดว่าเราเปนพวก บ๊งเบ๊ง นิสัยใจคอตระหนี่ถี่เหนียว เจอคนแปลกหน้าไม่มีเรื่องจะคุย ด้วยประสงค์จะปีนกระไดไต่ฐานะโดยไร้ฝีมือทางการกีฬาแล้วไซร้ ยามเมื่อหาผู้รับรองไม่ได้ครบตามกำหนดทั้งจำนวนและเวลา ก็เป็นอันว่า_เชิญตกกระป๋องไป ป.ล. ด้วยความโล่งใจของประดาเจ้าถิ่น!!

 

ขั้นสาม : การณ์ตรงข้ามหลังจากหาลายเซ็นได้ครบ ทางเจ้าพนักงานจะปิดสมุด BOOK แล้วเรียกผู้นั้นไปชำระค่าแรกเข้า (ENTRANCE FEE) ซึ่งเปนเงินก้อน

คันทรี่ เฮ้าส์ ทำเปนคันทรี่ คลัภย์

จากนั้นก็ไปเสียค่าบำรุงล่วงหน้าสัก 6 เดือนซึ่งไม่ค่อยจะมากมายอะไรนัก ขนหน้าแข้งมิร่วงหรอก อ่อ ยังไม่นับว่าเจ้าถิ่นเขาจะขอสัมภาษณ์ โดยสัมภาษณ์เปนภาษาของเขา ซึ่งแน่นอนว่าภาษาอังกฤษเปนมาตรฐาน หลังจากผ่านเกณฑ์สัมภาษณ์แล้วกรรมการก็จะให้คะแนนโดยการหยิบเอาลูกบอลซึ่งมีสีขาวและสีดำมาจับ เช่น กรรมการ 12 คน มีจำนวน 12 ลูกบอล

ถ้าเกิดว่ามีลูกบอลดำเพียงลูกเดียวก็แสดงว่าผู้พากเพียรนั้นตกกระป๋องไปอีก ต้องได้คะแนนขาวล้วนเปนเอกฉันท์ เข้าวงศ์ไพบูลย์กับเขาได้ โดยจะไปถูกจัดชั้นอีกครั้งหนึ่งว่าเปนสมาชิกประเภทที่ไม่มีสิทธิ์จะออกเสียงอะไรนะ ที่ได้เข้ามานี้ มีสถานะเปน (NON-VOTING MEMBER) ไปก่อน!

 

คาเฟ่

อีทีนี้พวกเกือบผู้ดีฝรั่งเศสเขาก็เพ่งมองมายังปรากฏการณ์เหล่านี้โดยทวีความสงสัยว่าประดาผู้ดีอังกฤษเขามาตั้งสโมสรอะไรกันเล่าให้มันลึกลับวุ่นวายถอนหายใจนิด โคลงหัวหน่อย แล้วก็เดินจุดบุหรี่โรยควันมุ่งหน้าเข้าไปหาของกินในแหล่งสมาคมฝรั่งเศสที่เรียกกันว่า “cafe”.

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 23 ฉบับที่ 3,659 วันที่ 7 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2564