พลังของตลาดหรืออำนาจของรัฐ?

06 มี.ค. 2564 | 04:10 น.

คอลัมน์เศรษฐเสวนา จุฬาฯทัศนะ  โดย  ผศ.ดร.ศรายุทธ เรืองสุวรรณ คณะบริหารธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,659 หน้า 5 วันที่ 7 - 10 มีนาคม 2564

 

 

ตลาดสกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) สั่นไหวอีกครั้ง เมื่อนางเจเนต เยลเลน (Janet Yellen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนดังๆ เกี่ยวกับสกุลเงินบิตคอยน์ (Bitcoin) ว่าเป็นสกุลเงินที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างหาที่เปรียบมิได้ หากเป็นคนอื่นออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตลาดการเงินคงไม่ตื่นตระหนกมากนัก แต่กับคุณเจเนต ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจของโลก มิใช่เพียงแค่ตำแหน่งปัจจุบันเท่านั้น แต่ประวัติการทำงานและการศึกษาที่โชกโชนและน่าประทับใจก็ยิ่งทำให้ตลาดการเงินรู้สึกถึงความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น และไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะ เอาอย่างไรกับเงินคริปโตกันแน่

นางเจเนต เยลเลน เป็นนักเศรษฐศาสตร์แถวหน้าของประเทศสหรัฐอเมริกา จบปริญญาตรี ทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก Brown University หนึ่งใน Ivy League ของประเทศสหรัฐอเมริกา และจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก Yale University ซึ่งก็เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอีกเช่นเดียวกัน เจเนตเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นอาจารย์ในคณะเศรษฐศาสตร์ Harvard University และภายหลังจากนั้นไม่นานนัก เจเนตก็ผันตัวเองไปอยู่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระหว่างนั้น เธอก็สมรสกับนักเศรษฐศาสตร์ รางวัลโนเบลชื่อ จอร์จ อเคอลอฟ (George Akerlof) และทั้งคู่ก็ย้ายไปสอนที่ London School of Economics ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร และในปี 1980 เธอก็ย้ายกลับมาสอนที่ University of California at Berkeley ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การก้าวเข้าสู่วงการผู้กำหนดนโยบายของประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นจากการนั่งเป็นบอร์ดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วยการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในปี 1994 และนั่งเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีในปี 1997 หลังจากนั้น เจเนตก็โลดแล่นอยู่ในแวดวงเศรษฐกิจในฐานะผู้กำหนดนโยบายและผู้กำกับดูแลผู้เล่นต่างๆ ในระบบการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกามาอย่างยาว นานด้วยประสบการณ์อย่างโชกโชน

การออกมากระแอมเบาๆ ของเจเนต เยลเลนเมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าจะเป็นแค่เสียงกระแอม แต่ก็สั่นสะเทือนตลาดบิตคอยน์แบบใจหายใจควํ่าเลยทีเดียว เพราะวันนี้ เจเนตดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกภายใต้รัฐบาล ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เจเนตให้สัมภาษณ์ว่า บิทคอยท์ไม่มีประสิทธิภาพที่จะเอามาใช้เพื่อจัดการธุรกรรมทางการเงินได้ ระหว่างที่ราคาบิตคอยน์ ทะยานไปถึง 53,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เธอยังพูดถึงเรื่องของกฎหมายที่จะใช้ในการ กำกับดูแลซึ่งตอนนี้ยังไม่มี และการเคลื่อนไหวของราคาที่ไร้เสถียรภาพของบิตคอยน์อีกด้วย

แต่ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจเนต เยลเลนแสดงความเห็นเกี่ยวกับบิตคอยน์อย่างถึงพริกถึงขิงและไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น และการวิพากษ์วิจารณ์ของเธอนั้นก็แสดงถึง ความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชน ยกตัวอย่างเช่นการให้สัมภาษณ์ในมุมมองส่วนตัวของเจเนตเอง

 

ตุลาคม 2015: เราไม่ได้มองว่าความนิยมในบิทคอยท์จะเกี่ยวข้องอะไรกับการดำเนินนโยบายทางการเงินของเฟด

ธันวาคม 2017: สกุลเงินคริปโตไม่ได้เป็นเครื่องสะสมมูลค่าที่มั่งคงและไม่ได้สร้างสิ่งแลกเปลี่ยนที่ถูกกฎหมาย จริงๆ มันคือสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูง

ตุลาคม 2018: ฉัน (เจเนต) ขอพูดตรงๆ ว่า ฉันไม่ใช่แฟนของคริปโต และฉันจะบอกคุณว่าทำไม ฉันรู้จักสกุลเงินคริปโตเป็นร้อยสกุลและฉันคิดว่ามันน่าสนใจในช่วงแรก แต่มีธุรกรรมจำนวนน้อยมากที่ใช้บิตคอยน์ และส่วนใหญ่ก็เป็นธุรกรรมผิดกฎหมาย

หรือการออกมาให้สัมภาษณ์อย่างตรงไป ตรงมาเกี่ยวกับบิตคอยน์และการกำกับดูแลว่า

 

พลังของตลาดหรืออำนาจของรัฐ?

 

 

กุมภาพันธ์ 2014: เฟดไม่ได้มีอำนาจที่จะกำกับดูแลบิตคอยน์ 

ตุลาคม 2015: หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสหรัฐฯ ไม่ควรจะยับยั้งความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางการเงิน

กันยายน 2016: บล็อกเชนสามารถมีผลกระทบที่มีสาระสำคัญอย่างมากต่อระบบการชำระเงินและแนวทางการดำเนินธุรกิจ

มกราคม 2017: บล็อกเชนสำคัญมาก เทคโนโลยีใหม่นี้สามารถมีอิทธิพลต่อการทำธุรกรรมในระบบการเงิน

ธันวาคม 2017: เฟดไม่ได้มีบทบาทใดๆ ในการกำกับดูแลบิตคอยน์ เฟดเพียงแต่กำกับให้มั่นใจว่าสถาบันการเงินจะได้รับการกำกับดูแลว่า พวกเขาบริหารจัดการอย่างเหมาะสม และตรวจสอบการฟอกเงินที่มีขึ้นเท่านั้น

 

ถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์ของเจเนตบ่งบอกถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อกระแสของคริปโตอย่างชัดเจน เธอไม่ได้ปฏิเสธการเกิดขึ้น และไม่ได้ทักท้วงอย่างหัวชนฝาว่า คริปโตไม่เหมาะสม เพียงแต่เจเนตกำลังหยิบยกเอาจุดอ่อนหรือข้อควรกังวลของสกุลเงินใหม่นี้ขึ้นมาบอกกับสาธารณะ และก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะใครๆ ก็รู้เรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครพูดถึง เพียงแต่ครั้งนี้เจเนตออกมาในฐานะเบอร์หนึ่งของผู้กุมบังเหียนเศรษฐกิจของโลก 

และทุกคนต่างทราบดีว่า เจเนต คือ นักเศรษฐศาสตร์ที่เชื่อมั่นในกลไกตลาดอย่าง ยิ่ง และเพื่อป้องกันมิให้ตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจเสียหาย เจเนตคงเริ่มหาหนทางที่จะกำกับดูแลสกุลเงินคริปโตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การกำกับดูแลก็ย่อมขัดขวางประสิทธิภาพการทำงานของกลไกตลาดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และนี่ถือเป็นความท้าทายของเจเนตอีกครั้ง หลังจากการก้าวลงจากตำแหน่งประธานเฟดอย่างสวยงามเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตาดูจริงๆ