คลัภย์ CLUB สโมสรแบบปิดของอังกฤษผู้ดี

20 ก.พ. 2564 | 08:10 น.

 

เวลานี้ธนาคารต่างๆ รวมไปถึงหมู่บ้าน สโมสร ร้านปลอดอากร แม้กระทั่งประกันภัย แลค่ายมือถือ ให้ความสำคัญแก่ปวงลูกค้าเก่าแก่นัยยะว่าต้องการยกระดับฐานะให้พิเศษถึงกึ๋น ด้วยการสร้างระบบกีดกันและแบ่งแยกเปนชั้นๆ แบบว่า เก่ามาก (ใช้จ่ายมาก) เปนชั้นแพลตตินั่ม มาใหม่ (ใช้จ่ายน้อย) เปนชั้นทองแดง จนสโลแกนแบบว่า บริการทุกระดับประทับใจ ค่อยจางเลือนหายไปกับกาลเวลาแลมูลค่าชนชั้นทางเศรษฐกิจ

มาบัดนี้ก็ถึงเวลาเปิดตำนาน การสโมสร(อย่างปิด) ที่ในอดีตนั้นสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พระราชทานตัวสะกดการันต์สวยงาม ว่า “คลัภย์” งามงดอักษรศาสตร์มากกว่าคลับภาษาใหม่เปนที่ยิ่งไปที่เมืองอังกฤษต้นตำนานกันก่อน

 

คลัภย์ CLUB สโมสรแบบปิดของอังกฤษผู้ดี

 

แต่ก่อนชะร่อนไรอังกฤษเปนค่ายการเมืองการปกครองที่แตกต่างกว่าใครในโลกา แม้ศูนย์กลางจักรวาฬการปกครองจะไปรวมอยู่ที่ประดามหากษัตริย์และ/หรือมหาราชินี แต่เมืองผู้ดีนี้ประดาเสนาอำมาตย์มักไม่ค่อยอยู่เฝ้าแห่แหนประมุขแห่งตัว ยามเมื่อได้ยศเปนขุนนางกินเมืองต่างๆตามชนบทประเทศแล้วไซร้ พึงใจจะอยู่ในที่ในทางอย่างว่าบ้านนอกของตนกับความสงบสงัดวิเวกและประดาไพร่ข้าติดที่ดิน

ผู้คนเมืองหลวง (แน่ล่ะว่าอยู่ใกล้ในหลวง/ราชินี) เรียกขานผู้คนเหล่านี้ว่า country man ในขณะที่ปวงพวกเขาเองผู้ถูกเรียกยิ้มขื่นๆกับตัวเอง ส่องกระจกแล้วรำพึงว่า ที่ถูกต้องมันต้อง country gentleman ตะหากเล่า ปั้ดถ่อ!

ยามเมื่อต้องเข้าประชุมสภา หรือว่ามีกิจธุระด้วยทรงพระกรุณาเรียกหาใช้ เหล่า country gentlemen ก็จะตะลีตะลาน เปลี่ยนเครื่องแต่งกายสวมใส่สบายแถวบ้านมาทรงเครื่องใหม่ ไอ่รองเท้าสีน้ำตาลพื้นกึ่งหนา เสื้อผ้าอบอุ่นทอทวีตนั่น_ สะบัดทิ้ง เปลี่ยนมาใส่รองเท้าดำขลับพื้นกึ่งบาง เสื้อผ้าวูลสึเข้มทึมทึบเจือเงา เร่งรัดไปเข้าเฝ้าเข้าแหน อย่างเพลงว่า ‘ราชชะการ_ทะหารเรียกช้ายยย’ (ณ บรรทัดนี้พิสูจน์อักษรโปรดอย่าแก้_มันเปนเพลงทำนอง เพื่อท่านผู้อ่านเสพรสอักษร ร้อยเรียงเสียงเสนาะ)  ทั้งนี้หากจะว่าเปนไปด้วยคติเก่าชาวจีนอธิบายสถานการณ์ว่า ‘หลวงเลี้ยงเราพันวัน เพื่อใช้งานวันเดียว’ ก็ย่อมมิได้แตกต่างกันในกรณีนี้

คฤหาสน์บ้านนอก

สมาชิกนั่งคลัภย์กินน้ำชาหารือ

 

อีทีนี้ยามทุลักทุเลเข้ากรุงมาแล้วจะไปอยู่ที่ไหน? จะไปเช่าที่พักโรงแรมอยู่ ค่ารักษาเกียรติมันก็ช่างอลังการงบประมาณจะพาลขาดดุล จะไปเช่าโรงเตี๊ยมอยู่ก็เสียศรี ไหนรึสู้อุตส่าห์มาเรียนจบครบศึกษาในกรุงแก้วมีภูมิคอนเน็กชั่นผู้ดีเก่ามากมาย คนหัวใสเขาก็คิดการณ์ใหญ่ รวมหมู่รวมคณะจัดตั้งสโมสร ให้ “พวกๆกัน” ได้พำนึกพักพึ่งพิง ซึ่งการพำนักพักพึ่งพิงอันนี้ มิใช่ว่ามีแต่เพียงไว้ซุกหัวนอนเมื่อไรกันเขาจัดการอาหารสามสี่มื้อ บริการสุราและการละเล่นในร่ม ชนิดว่า บิลเลียดแลกีฬาบัตร เอาไว้ให้ มีห้องหนังสือ มีมุมทำงาน มีบริการซักรีด โกนหนวดเล็มผม เปนการทั่วไป ให้สถานที่เปนผู้มอบความรู้สึกให้ผู้เข้ามาพำนึกพักพิงว่า_ช่างเหมือนบ้าน และให้ผู้อยู่ในบ้านนั้นรู้สึกแก่ตัวว่าเปนมากกว่าเจ้าบ้านคือเปน “เจ้าถิ่น”

คลัภย์ CLUB สโมสรแบบปิดของอังกฤษผู้ดี

อันนี้แลที่เรียกกันว่า club

ประดาคลัภย์เหล่านี้เขาฝักใฝ่กันแต่ผู้มีจริตเดียวกันมาสมาคมกัน เปนที่อบอุ่นใจ เปนที่ตอกแลย้ำว่าเข้าเมืองไปทำราชกิจธุระการณ์มาเสร็จแล้วจะต้องกีดกันไม่บังเกิดความรู้สึกว้าเหว่ชนิดว่า “ไม่รู้จะเหหันจะไปทางใด” ขึ้นมาแก่เหล่าสมาชิกได้เปนอันขาด

ผู้เปนสมาชิกแห่งคลัภย์หรือสโมสรปิดเหล่านี้ หิวมื้อเที่ยงขึ้นมา เขาไม่ต้องร่อนเร่เหหัน เดินลากขาหรือกดเครื่องค้นว่าจะไปแก้หิวที่ไหน _เขาไปคลัภย์ ระหว่างเข้ากรุงมารอคิวเข้าชี้แจงแต่ ฯพณฯ ประธานกรรมาธิการ_เขาไปฆ่าเวลารอที่คลัภย์ เสร็จงานเร็วเขาก็ไปเล่นบิลเลียด ตีเผตีไพ่ ใช้เวลากินดื่มกับผู้พวกจริตเดียวกันที่คลัภย์

ซึ่งในอดีตกาลนานมาเขามุ่งกำชับให้เปนแต่คลัภย์ของสุภาพบุรุษแต่ถ่ายเดียวเท่านั้น กล่าวคือ

หนึ่งคือต้อง ‘สุภาพ’ ใช่ล่ะ, ในคลัภย์นั่นถือกันว่าความสุภาพนั้นสำคัญกว่าเงิน ลางคนประกอบกิจการค้าแฝงปล้นฆ่าอาชญากรรม ทำยาเสพติด แล้วเกิดได้ดีมีเงิน มักเกิดอาการใคร่เอิด_นิยมจะอวดโอ่โชว์เชยและเผลอสำแดงความ ‘บ๊งเบ๊ง’ ประกอบกิริยาความ ‘เพิ่งจะรวย’ นั้นออกมา

ปวงผู้ลากมากดีก่อตั้งคลัภย์ขึ้นมาทั้งหลายนี้เขาจะพากัน ‘บู่’ นัก จักวางหมากกีดกันนักหนามิให้เข้ามาร่วมวงร่วมคณะ ด้วยมาตรการ สำคัญๆเช่น

ต้องกรอกใบสมัครเปนสมาชิก ต้องมีสมาชิกเก่าแก่เขียนสรุปกิตติคุณแลรับรองอุปนิสัยผู้สมัคร แลคณะกรรมการคลัภย์จะใช้เวลาเปนเนิ่นนานในการพิจารณาให้เข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์ คนอยากเข้าก็ต้องอดทนรอ รอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็ไปที่อื่น ด้วยว่าผู้ดีของแท้นั้นเขาต้องเปนสมาชิกกัน 2 คลัภย์จ้ะ ไม่ใช่เปนอยู่คลัภย์เดียว

คลัภย์กลายร่างเปนสโมสรยามเย็นมีเลี้ยงกาล่าดินเนอร์

อนึ่งว่า แล้วจู่ๆคนรวยใหม่ๆคนหนึ่งจะไปรู้สึกรู้สาจนใคร่อยากจะเข้ามาเปนเจ้าถิ่นบ้างจะเปนได้อย่างไร ก็เรียนว่าคนไม่ใช่สมาชิกอาจได้รับเชิญเปนแขกของสมาชิก เข้าไปสัมผัสความโอ่อ่าลึกลับในสิทธิสภาพความเปน’เจ้าถิ่น’ ยังคลัภย์พวกนั้นได้ ภายใต้กติกาสำคัญที่เจ้าของสมาคมเขาบีบครอบความตะกรามจักอวดรวยนั้นเสีย โดยกำหนดให้ในคลัภย์ห้ามใช้เงินสดเงินรูด เมื่อมาเปนแขกจะกินอะไรต้องให้สมาชิกที่เชิญมาเขาสั่งให้ แล้วเมื่อทำท่าคว้าควักมัดเงินออกเลี้ยงจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่มต่างๆนั่น จะต่อหน้าหรือระหว่างเจ้าสมาชิกลุกไปห้องน้ำ เหล่าบริกรผู้ยึดถือสโมสรว่าเปนยิ่งกว่าบ้าน เขาจักเดินมาบอกเบาๆว่า ‘ที่นี่ไม่รับเงินจากแขกของท่านเจ้าสมาชิกดอกครับ ทางเรายึดกติกา ด้วยว่าไม่ใช่ร้านค้าทั่วไปที่เห็นแก่เงิน’_อุ้ย!

คลัภย์ภายใน

แล้วจึงอธิบายต่อหากว่ายังเซ้าซี้ส่งเงินสินบนให้   

ว่า

‘ทางเราส่ง statement สรุปยอดใช้จ่ายรายเดือนไปให้ท่านเจ้าสมาชิกมากว่าร้อยปีตั้งแต่ยุคเจ้าคุณปู่แห่งท่านยังมีชนมชีพอยู่นั่นแหนะครับ’_อุ้ยอีก!!   

(ต่อตอน 2)

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41  หน้า 23 ฉบับที่ 3,655 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564