แชร์ลูกโซ่ ตำนานอาชญากล (ตอน2) จาก เบลเลอโรฟอน ตัวไคมีร่า ถึง ชาร์ล พอนซี่ และเบอร์นาด มาดอฟ
(ต่อจากตอน 1)
อีทีนี้ก็มาถึงคนสยบปีกาซัส เรียกเอาความสามารถเด็ดดวงแห่งตัวมันมาใช้งานได้
เบลเลอโรฟอน เปนหนุ่มเยาวชน ชอบนักกับการปราบสัตว์ประหลาด มีผลงานพิฆาตตัวไคมีร่าเปนที่ประจักษ์ (คนสายวิทย์จะคุ้นชื่อไคมีร่า ที่เอาไปตั้งชื่อ สิ่งแปลกๆทางวิทย์) เปนลูกของมหาเทพโพไซดอน (คนสายไม่วิทย์ก็จะคุ้นชื่อโพไซดอน ที่เอาไปตั้งชื่อสถานบำเรอทางรัชดา)
เมื่อแกก็ปรารถนาจะไปฆ่าตัวไคมีร่า ที่ผสมระหว่างงู แพะ มังกร สิงโต _แหม่ ยังกะปีนักษัตร มะเส็ง มะโรง มะเเม ขาล! ไปถามนักปราชญ์ ก็ว่ากำลังตนอาจไม่พอ ต้องมีม้าปีกาซัสช่วยและต้องไปขอพร_bless จากเทพเทวาเสียก่อนถึงจะสำเร็จผล
เบลเลอโรฟอน ก็ไปนอนเฝ้าวิหารเทพีอะเธน่า จนท่านเสด็จมา มอบอานทองคำไว้ให้_เพื่อเอาไปครอบปีกาซัส, เพื่อสยบปีกาซัส, แล้วขี่ปีกาซัสไปจัดการกะไคมีร่าต่อไป.
ก็ให้นึกถึงว่า จ็อป_สามารถนี่หละหนาก็คือ เบลเลอโรฟอน เอาอานทองไปครอบปีกาซัสสยบได้ แล้วส่งให้ดีเอสไอในนามอะธีนา นำพาไปปราบแชร์ลูกโซ่พันธุ์ไฮบริดผสมพิศดารไคมีร่า ที่สยายปีกแลสาขาหมุนเงินวงแชร์ต่อไปได้อีก 7 วง!
เผื่อจะสงสัยว่าแชร์ลูกโซ่ เปนอย่างไร ก็คงต้องเล่าเอาไว้ มันเริ่มจากว่าอีตา พอนซี่_ ชาร์ล พอนซี่ น่ะซี แกเปนมนุษย์อิตาลีอาชญากล, ตั้งกะปีมะโว้ 1920 เปนต้นเค้าเอาวิทยาการลวงโลกที่เคยมีในนิยาย มาทำให้มันเปนจริง คือ หลอกเอาเงิน คนหนึ่งไป แล้วจ่ายคืนเขานิดหน่อยให้เปนอย่างดอกเบี้ยลงทุน แล้วก็ไปยืมอีกคนหนึ่งมาจ่ายคืนคนแรก แล้วทำคนที่สามอย่างคนแรก ทำคนที่สี่อย่างคนที่สอง ไล่ต่อๆๆกันไปเปนลูกโซ่
อีคนแรกก็สบายใจว่าเขาเอาเงินไปก้อนนึงแล้วมีการคืนค่าตอบแทนปันผลจริงๆโว้ย ก็โพนทนาบอกต่อกันไปว่าชีวิตดี๊ดี อยู่เฉยๆก็มีเงินกินเงินใช้ หารู้ไม่ว่าก็ไอ้เงินแกเองนั่นแหละที่ พอนซี่ มันเอามาทยอยให้คืน มิพักจะต้องกล่าวถึงคนที่สองสามสี่ห้าหก__โศกนาฏกรรมแสนหวานเดียวกัน ก็กลายเปนเกมส์ที่ใครเข้าก่อน ออกก่อนรวยกว่า ใครมาช้า_เข้าช้า ตัวใครตัวมัน!
ก็อีคนท้ายๆ พอลูกโซ่มันจวนจะหมุนไม่ไหว อีตาพอนซี่ก็จะหอบสตางค์หนีไปก้อนใหญ่ ไม่ได้ต่างอะไรกะเท้าแชร์หนี สมศรี วงศ์สวัสดิ์_ 555
จึงเปนกรณีที่มาของคำว่า แชร์+ลูกโซ่
งานของพอนซี่ ทำคนเดียวได้เรอะ?
มันก็ต้องมีเครือข่าย โดยเฉพาะ พวกแมวอ้วน FAT CAT ทางการเงินทั้งหลาย อย่างเบอร์นาร์ด มาดอฟ ที่ไปๆมาๆลงมือทำกันซะเอง (ซึ่งจะต้องเล่าสู่กันฟังต่อไป)
ฝ่ายก็เห็นว่า ผู้คนหลงเปนเหยื่อ เพราะเชื่อ_เชื่อถือ เท้า อีกฝ่ายก็เห็นว่า จะเท้าจะตีน_ก็อย่าโลภ ผลตอบเเทนมหาศาลยั่วใจมีที่ไหน
=>Too Good To Be True<=
งานของจ็อป_สามารถ เบลเลอโรฟอน ปฏิบัติการบนพื้นฐาน: ทุกคนมีความโลภ แต่รัฐต้องปกป้องคุ้มครองประชาชนอย่าให้ถูกหลอก
‘เรา’ ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่หมายใจวางในภาครัฐหนึ่ง ไม่มีทุนจะไปลงช่วยอีกหนึ่ง
ช่วยได้แค่บอกเล่าเรื่องปีกาซัส พอนซี่ และแมวอ้วน ให้ผู้คนรู้เปน cognitive กระตุ้นเตือนภาพจำในสมองทุกครั้งที่โดนใครๆมากางแผนลงทุนขายแชร์ลงทุน.
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,653 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564