"คิดอย่างไร ย่อมได้อย่างนั้น"

ในโลกนี้พระพุทธเจ้าสอนชัดเจนว่า "มโนกรรม หรือ ความคิดจิตใจ คือ สิ่งที่ส่งผลแรงสุด"
 

ดังนั้น ชีวิตของเรา ในวันหนึ่งๆถ้าเรามุ่งมั่นคิดแต่สิ่งที่ไม่ดีคิดที่แต่จะนินทาผู้คนคิดแต่ อิจฉาตาร้อน แน่นอนสิ่งเหล่านั้นย่อมมีผล กระทบส่งมาถึงชีวิตเรา อย่างหนีไม่ได้ เพราะมโนกรรม คือ กรรมที่แรงที่สุดเป็นกรรมที่ส่งผลให้ ทันตาเห็น
 

หลายคนอาจสร้างกรรม โดยไม่รู้สึกตัว ว่าในวันหนึ่งได้สร้างกรรมไปมากมายขนาดไหน แม้จะทำอะไรดีๆก็ตาม ก็ยังไม่สามารถลบล้างมโนกรรม ในฝ่ายอกุศล ได้ทัน จึงมีชีวิตที่ไม่ได้ดีซะที

ในมุมกลับกันถ้าเราเป็นคนที่คิดแต่เรื่องดีๆคิดแต่สิ่งดีๆ มองโลกในแง่ดี ไม่คิดนินทา ไม่คิดอกุศลกับใคร ก็ย่อมจะมีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาสู่ชีวิตทำอะไรก็จะสำเร็จมีความสุขมีความเจริญได้อย่างรวดเร็วทันตาเห็น
 

คำสอนเรื่องมโนกรรมนี้ ก็หมายถึงความคิดความรู้สึก ในจิตใจ ซึ่ง ชาวตะวันตก ต่างก็เคยอ่านพระไตรปิฎกตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อน ได้นำแนวคิด แบบนี้ไปพัฒนาปรับปรุงเพื่อใช้กับชีวิต และได้สร้างเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องความคิด ในมุมต่างๆมากมายอาทิกฎแรงดึงดูด การคิดบวก เป็นต้น เราต้องไม่ลืมว่าศาสตร์นี้มีมาตั้ง 2,500 ปีแล้ว ส่วนศาสตร์อื่นๆของตะวันตก เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีนี้เอง

ก็จึงเกิดคำถามว่าทำไมเราไม่เรียนรู้เรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อน้อมเอามาใช้กับชีวิต เพื่อความสุขและความสำเร็จของเรา นี่แหละที่เรียกว่า ทำมาธรรมะ