จี้รัฐใช้มาตรการเข้ม สกัดโควิด

09 ม.ค. 2564 | 07:30 น.

จี้รัฐใช้มาตรการเข้ม สกัดโควิด : บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3643 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 10-13 ม.ค.2564

 

การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรายวัน เกินหลัก 200 คนโดยตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงได้ในระยะเวลาอันสั้น และสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ช่วงพีคที่แท้จริงที่มีการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญจะมียอดผู้ติดเชื้อในประเทศสูงมากกว่าหลักพันคนต่อวัน โดยผลจากการหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่และมีการเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก จะไปปรากฏยอดผู้ติดเชื้อในช่วงกลางเดือนม.ค.หรือสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค.นี้
 

บุคลากรทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ นักการสาธารณสุขได้ออกมาเตือนและประเมินขีดความสามารถของโครงสร้างทางสาธารณสุข ที่จะรองรับการระบาดระลอกใหม่นี้ว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะรองรับไม่ไหว หากรัฐบาลไม่ดำเนินมาตรการเข้มข้น ในการป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อ และประชาชนไม่ได้ร่วมมืออย่างจริงจัง ในการช่วยสกัดยับยั้งป้องกันตัวเอง ไม่พาตัวเองเข้าไปในสถานการณ์เสี่ยง โดยกรณีมีมาตรการบางส่วนคาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 คนต่อวัน ซึ่งสะสมไม่นานก็จะหลักหมื่นภายในไม่กี่วัน


สถานการณ์การระบาดในต่างประเทศ ก็มีความรุนแรงมากเช่นเดียวกัน โดยสหรัฐฯมียอดติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นรายวัน อังกฤษยอดผู้ติดเชื้อหลักหมื่นคนต่อวัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศทั้งในยุโรป เอเชีย ที่ได้หันมาประกาศล็อกดาวน์ประเทศ เพื่อสกัดยับยั้งไม่ให้โรคแพร่กระจายเร็วเกินไป ควบคู่กับการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและทะยอยฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในช่วงระยะเวลาอันสั้นต่อไป
 

ขณะที่มาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่ในขณะนี้ เป็นการควบคุมพื้นที่บางส่วนและเพิ่มระดับความเข้มงวดในการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ที่ต้องมีการขอใบอนุญาตหรือแจ้งการเดินทางข้ามจังหวัด อาจเรียกได้ว่าเป็นมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ โดยทำให้การเดินทางของประชาชนที่เป็นตัวการสำคัญในการเป็นพาหะแพร่เชื้อ กระทำได้อย่างไม่สะดวก รวมทั้งการปิดสถานที่บางแห่งที่เป็นแหล่งรวมตัวของคนเพื่อสกัดยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค
 

มาตรการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่นั้น อาจยังไม่เข้มแข็งเพียงพอในการสกัดการระบาดเป็นวงกว้างในรอบนี้ เราเห็นว่ารัฐบาลต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการหยุดการเดินทางและเข้าไปสอบสวนให้เร็วขึ้น เพื่อสกัดควบคุมโรคให้ได้เบ็ดเสร็จโดยเร็ว ก่อนหันมาเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะมาตรการที่ควบคุมบางส่วนประกอบกับประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองบางส่วน หรือเป็นมาตรการกึ่งเปิดกึ่งปิด ก็ไม่อาจสกัดกั้นการแพร่กระจายได้ประกอบกับการสูญเสียทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นแล้ว การดำเนินการเพื่อจัดการให้เบ็ดเสร็จก่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงควรเป็นทางเลือกของรัฐบาลที่เหมาะสมมากกว่า