วิบากกรรม “3 เกลอ” คณะก้าวหน้า

25 ธ.ค. 2563 | 04:58 น.

วิบากกรรม “3 เกลอ” คณะก้าวหน้า : คอลัมน์คันฉ่องส่องการเมือง ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3639 หน้า 12 ระหว่างวันที่ 27-30 ธ.ค.2563 โดย... นาย...NO VOTE

 

          นอกจากอกหักจากการ “กินแห้ว” ไม่สามารถ “ปักธง” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้แม้แต่จังหวัดเดียวแล้ว “คณะก้าวหน้า” ของ “3 เกลอ” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ต้องมาลุ้นว่าจะเจอกับการดำเนินคดี “อาญา” อีกหรือไม่ ในกรณีการกระทำคล้ายพรรคการเมือง ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม มาตรา 111 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

          ล่าสุดวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อกรณีได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำของ “ธนาธร-ปิยะบุตร-พรรณิการ์” และ กลุ่มก้าวหน้าในกรณีดังกล่าว 

          หลังการให้ถ้อยคำ ศรีสุวรรณ ระบุว่า ทางกกต.ได้สอบถามว่าจะกล่าวหาใครบ้าง ก็ได้ยืนยันที่จะกล่าวหาบุคคลทั้ง 3 และ “กลุ่มก้าวหน้า” ว่ากระทำการในลักษณะคล้ายพรรคการเมือง เพรามีการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง มีการใช้โลโกกลุ่มคล้ายพรรคการเมือง และรูปของนายธนาธร ในป้ายหาเสียงของผู้สมัคร อบจ. รวมทั้งบุคคลทั้ง 3 ยังขึ้นรถปราศรัยตระเวนหาเสียงตามจังหวัดต่างๆ เช่นเดียวกับการดำเนินการของพรรคการเมือง
    

          ศรีสุวรรณ ชี้ว่า การกระทำของ “คณะก้าวหน้า” แตกต่างจากกลุ่มการเมืองในจังหวัดที่มีการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง อบจ. เพราะกลุ่มการเมืองในจังหวัดจะหาเสียงแค่ในพื้นที่ เมื่อเสร็จเลือกตั้งก็จะสลายกลุ่มไป แต่คณะก้าวหน้า หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งไม่ได้สลายกลุ่ม และยังมีการประกาศจะส่งผู้สมัครท้องถิ่นในระดับอื่นๆ ต่อไป  

          ศรีสุวรรณ ได้แจ้งต่อคณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ด้วยว่า ขอที่จะไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เช่น คำให้สัมภาษณ์ พฤติการณ์ในลักษณะคล้ายพรรคการเมือง และจะนำมามอบให้ภายใน 2 สัปดาห์ จากที่วันนี้ก็ได้ให้รูปป้ายหาเสียง และภาพถ่าย ธนาธร และ พรรณิการ์ ได้ขึ้นรถแห่หาเสียงไปในจังหวัดต่างๆ กับทางคณะกรรมการไต่สวนไปแล้ว โดยคณะกรรมการไต่สวนฯ ก็ระบุว่า จะเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงด้วย

          ศรีสุวรรณ ยังชี้แจงกรณีตั้งข้อสังเกตว่า การยื่นคำร้องเหมือนจงเล่นงานแต่คณะก้าวหน้า ว่า พรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย เขามีสิทธิที่จะไปช่วยผู้สมัครท้องถิ่นหาเสียง เพราะเป็นพรรคการเมือง กฎหมายไม่ได้ห้ามส่งผู้สมัคร แต่กลุ่มก้าวหน้าไม่ใช่พรรคการเมือง แต่มีพฤติการณ์คล้ายพรรคการเมือง ธนาธร ไปจังหวัดไหนก็บอกว่าจะเปลี่ยนจังหวัดให้เป็นแบบนั้นแบบนี้เช่นเดียวกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายระดับประเทศ ส่วนกลุ่มอื่นๆ เขาหาเสียงในจังหวัด เสร็จเลือกตั้งก็สลายไป 
    

          สำหรับความผิดตาม มาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุว่า ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี 

          ถือเป็น “วิบากกรรม” ของ “3 เกลอ” คณะก้าวหน้า ที่ต้องต่อสู้ตามกระบวนการต่อไป...