>> นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. จนถึงวันนี้ มีหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ทั้ง SET และ mai รวม 7 ตัว ในจำนวนนี้ มีแค่ 5 ตัว LEO NCAP RT JR และ SAK ที่ราคาหุ้นปัจจุบัน ยืนเหนือจองได้ ส่วนอีก 2 ตัว WGE , SABUY ราคาตํ่าจอง ....อย่าเพิ่งถอดใจค่ะ โค้งสุดท้ายที่เหลือของปีนี้ ยังมี IPO รอขายและเข้าตลาดหุ้น อีก 3 บริษัท ประกอบด้วย IND ( อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป) , KEX ( เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) และ SA (ไซมิส แอสเสท) IND ไม่ใช่แค่บริษัทรับเหมาก่อสร้างเท่านั้น แต่เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม เช่น การวางแผนโครงการ การวางผังเมือง การออกแบบสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดพื้นที่และสถาปัตยกรรม วิศวกรรมไฟฟ้า, เครื่องกล, การขนส่ง, สุขาภิบาล, ธรณีเทคนิค, สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรน้ำ หุ้นตัวนี้ขาย IPO เพียง 90 ล้านหุ้น หรือ 45 ล้านบาท ราคาขาย 1.10 บาท /หุ้น
>> KEX บริษัทย่อยของกลุ่ม BTS ทำธุรกิจจัดส่งพัสดุแบบครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกประเภท และมีเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ด้วยจุดให้บริการกว่า 15,000 แห่ง พร้อมศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,200 แห่ง...ขาย IPO 300 ล้านหุ้น ราคา 28 บาท เป็นราคาสูงสุดของการทำบุ๊คบิว ตัวนี้น่าดูชมมากค่ะ แม้พี/อี จะสูงลิ่ว แต่ความต้องการล้นทะลัก ก็แหม่ !!! คนแจกไพ่ โบรกเกอร์ระดับโกลบอล “เครดิตสวิส” นั่นเอง
>> ตัวรั้งท้ายปีนี้ SA ของ “เสี่ย ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรญเสริญ” ที่ตั้งท่าเข้าตลาดตั้งแต่ 6-7 ปีก่อน ผ่านการแบล็คดอร์ (เข้าตลาดหุ้นทางอ้อม) หุ้น MAX สุดท้าย “เสี่ยขจร” ถอดใจ-ถอดตัวออกมา เข้าตลาดหุ้นเองก็ได้ บ่มเพาะจนถึงเวลา SA เดินเข้าตลาดหุ้นอย่างสง่าผ่าเผยครับ เสนอขาย 150 ล้านหุ้น ราคา 5.50 บาท ...จุดเด่นหุ้นตัวนี้ แกร่งสวนวิกฤต รายได้-กำไรโตต่อเนื่อง งานในมือร่วม 1 หมื่นล้านรอขายได้อีก 3 ปี ...แว่วๆ กำไรสะสมเพียบ รอปันผลแรง ๆ ให้ผู้ถือหุ้นอีกด้วย การเข้าเทรด เรียงไปเลยค่ะ IND (22 ธ.ค.) ต่อด้วย KEX ( 24 ธ.ค.) และ SA ฉลองคริสมาสต์ 25 ธ.ค. ใครชอบตัวไหน หรือธุรกิจอะไร เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในไฟลิ่งได้นะคะ สำหรับเจ๊เมาธ์บอกได้ว่าน่าสนใจทุกตัวค่ะ
>> โครงการ “คนละครึ่ง” หวยมาออกที่ DTAC ด่ากันทั้งเมือง หลังจากรัฐบาลให้ลงทะเบียนเฟส 2 เมื่อ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ค่ายอื่นส่งรหัส OTP ให้ลูกค้าปกติ แต่ค่าย “ดีแตก” นี่สิ เกิดระบบล่ม ส่งรหัสกลับมาหาลูกค้าไม่ได้ ผู้บริหารถึงกับต้องออกมาขอโทษลูกค้า และมาตรการชดเชย สูงสุดไม่เกิน 3,500 บาท ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งในระบบเติมเงิน และระบบรายเดือน อาทิ โบนัสเติมเงิน โทรฟรี เน็ตฟรี และส่วนลดเมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ ทั้งให้-ทั้งแถม ชดเชยขนาดนี้ ยังไม่โดน (ใจ ) ลูกค้าถึงกับเอ่ยปากย้ายค่าย เพราะมาตรการชดเชยไม่เกิน 3,500 บาทที่ว่า ไม่ต่างกับโปรโมชั่นการตลาดปกติของ DTAC
>> ESSO เป็นหุ้นโรงกลั่นน้ำมันอีก 1 ตัว ที่เริ่มจะได้อานิสงส์จากวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 นักวิเคราะห์คาดกันว่า ไตรมาสที่ 1/64 หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน จะไม่ขาดทุนจากการสต๊อกน้ำมันดิบมูลค่ามหาศาลเหมือนตอนต้นปี 63 ขณะเดียวกัน คาดว่า การเดินทางภายในและระหว่างประเทศจะกลับคืนมาใกล้เคียงกับภาวะปกติ ขณะที่ค่าการกลั่น มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเช่นกัน เพียงแต่สำหรับ ESSO อาจจะแตกต่างไปจากหุ้นโรงกลั่นตัวอื่น ๆ ที่มักจะมาช้ากว่าเท่านั้น แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มานะคะ เพราะมาแล้ว ESSO มาแรงค่ะ
>> ตอนนี้มีเสียงซุบซิบกันว่า BANPU ลากแมงเม่าขึ้นดอยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะการลากราคาหุ้นขึ้นมาตามราคาของถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับราคาสูงขึ้น ตามราคาน้ำมัน รวมถึงข่าวโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นขนาด 7 MW ได้ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปแล้ว มันก็ยังไม่น่าจะดันให้ราคาคาหุ้นของ BANPU วิ่งมาได้ไกลขนาดนี้ และจนถึงนาทีนี้ เป้าราคาที่นักวิเคราะห์ให้ไว้สูงที่สุดก็แค่ 8.80 บาท เท่านั้น ถ้าใครชอบก็ไปต่อด้วยกันกับ BANPU ได้นะคะ แต่ถ้าใจไม่ถึง ต้องหาทางลงได้แล้วค่ะ
>> AMATA ของเสี่ย “วิกรม กรมดิษฐ์” ขยับราคานิ่มๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะสารพัดข่าวดีที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือการที่ไทยลงนามในสัญญาการค้า RCEP ล้วนแล้วแต่เข้าทางผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมทั้งนั้น แต่ไม่ได้มีแค่ AMATA ที่ได้รับอานิสงส์นี้ ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ยังมี WHA และ ROJNA ที่ได้ดี เพราะเรื่องเดียวกัน...เพียงแต่ถ้าเทียบอัตราการขยับราคา...ดูเหมือนว่า AMATA ค่อนข้างจะเด่นกว่าใครเท่านั้น สำหรับเจ๊เมาธ์ หุ้นกลุ่มนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ เพียงแต่ต้องใจเย็น ๆ เท่านั้นค่ะ