“เสพติด” โครงการ“คนละครึ่ง”

04 ธ.ค. 2563 | 04:30 น.

“เสพติด” โครงการ“คนละครึ่ง” : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3633 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 6-9 ธ.ค.2563 โดย... ว.เชิงดอย

+++ วันนี้ขอไปเริ่มที่เรื่องการเมืองกันก่อน ...เป็นไปตามคาดสำหรับคดี “บ้านพักทหาร” ของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากเหตุยังพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบกหลังเกษียณอายุราชการตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2557 จนถึงปัจจุบัน

         

+++ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ พักอาศัยในบ้านพักรับรองที่กองทัพบกจัดให้  และได้รับการสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เป็นไปตามดุลยพินิจของกองทัพบก ที่มีอำนาจพิจารณาตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ.2548  ซึ่งระเบียบดังกล่าวใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2548 ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งเป็นผบ.ทบ.และนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งนายกฯ เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญของประเทศ นอกจากเป็นหัวหน้าของคณะรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ยังมีฐานะเป็นผู้นำของประเทศ ความปลอดภัยของนายกฯ รวมทั้งครอบครัวจึงมีส่วนสำคัญ รัฐมีหน้าที่จัดการดูแลให้ปลอดภัยแก่นายกฯ และครอบครัว ตามความเหมาะสมแก่สภาพการณ์ การจัดบ้านพักรับรองที่ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว สร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกาย และจิตใจ การปฏิบัติภารกิจในการบริหารประเทศ ล้วนเป็นประโยชน์ส่วนรวมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐพึงจัดให้มีที่พำนักของผู้นำของประเทศในขณะที่ดำรงตำแหน่ง

+++ นอกจากนี้ยังเห็นว่า ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นกฎที่ยังคงใช้บังคับอยู่โดยไม่ได้ถูกยกเลิกหรือเพิกถอน ประกอบกับกองทัพบกให้สิทธิดังกล่าวกับผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบนั้น โดยถือเป็นสิทธิของบุคคลเนื่องมาจากการดำรงตำแหน่ง อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก จึงไม่ได้เป็นการกระทำที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากกองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยราชการเป็นพิเศษ นอกเหนือจากปฏิบัติกับบุคคลอื่น จึงไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง  ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) ทั้งไม่เป็นกรณีการถือประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประเทศ ไม่เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง ไม่เป็นการขอ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ และไม่เป็นการกระทำอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม  เว้นแต่เป็นการรับที่มีบทบัญญัติกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ให้รับได้ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานจริยธรรม ข้อ 27 ประกอบข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 อันเป็นกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(5) ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

 

+++ “จบข่าว” สำหรับคดีบ้านพักทหาร “บิ๊กตู่” รอดตัวไป ด้วยมติ “เอกฉันท์” ยังคงตำแหน่งตำแหน่งนายกฯ คนที่ 29 ได้ต่อไป แต่ที่ยัง “ไม่จบ” คือ “ม็อบคณะราษฎร” เพราะเมื่อรู้ผล “ศาลรัฐธรรมนูญ” แกนนำม็อบก็เกิดอาการ “เดือดดาล” โจมตีศาลรัฐธรรมนูญด้วยถ้อยคำรุนแรง ทั้งโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล และโจมตีบนเวทีชุมนุมกลางห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา แถมยังประกาศว่าจะยกระดับการชุมนุมขึ้นไปเรื่อยๆ เอา...รอดูกันไปปัญหาทางการเมือง จะมี “จุดจบ” และ “ทางออก” หรือไม่ เมื่อไหร่ หรือจะต้อง “ยักแย่ยักยัน”กันต่อไปเรื่อยๆ  อย่างนี้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติแต่อย่างใด

 

+++ หันไปดูเรื่องเกี่ยวกับ “ปากท้อง” ของประชาชนคนทั้งประเทศ เรื่องที่ทำให้คนอิ่มท้อง นั่นก็คือ โครงการ "คนละครึ่ง" เฟส 2 และ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ได้ เคาะเรื่อง “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” และ “คนละครึ่ง” เฟส 2 รอเพียงเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าต่อไป โดยโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2  รัฐบาลได้ปรับเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการรายใหม่  5 ล้านคน จากเดิมเฟสแรก 10 ล้านคน โดยยอด 5 ล้านคนนี้ รวมคนที่ถูกตัดสิทธิจากเฟสแรกแล้ว ส่วนผู้ที่เข้าร่วมมาตรการ “ช้อปดีมีคืน และ “ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ได้

+++ นอกจากนี้ยังเพิ่มยอดเงินให้เป็นคนละ 3,500 บาท แต่ใช้ได้ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน เริ่มใช้เงินตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค.2564 สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” เฟสแรก  10 ล้านคน หากกดปุ่มยืนยันสิทธิแล้ว จะได้รับยอดเงินเพิ่ม 500 บาท รวม 3,500 บาท ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” เฟส 2 เมื่อไหร่ ทางกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไป ส่วนผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” จะได้รับเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.2564  ...ถือเป็นข่าวดีของประชาชนทั่วไป และผู้ค้ารายย่อย ที่มีความคึกคักขึ้นในการจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นเกี่ยวกับเรื่อง “ปากท้อง” ว่าก็ว่าเถอะ...ตอนนี้ประชาชน “เสพติด” โครงการ “คนละครึ่ง”แล้ว เพราะเป็นโครงการที่ “โดน” ที่สุดนับแต่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือจาก “พิษโควิด-19” ออกมา...