“หมอเสริฐ” ถอยดีกว่า ขาย BH ดีกว่า

28 พ.ย. 2563 | 04:44 น.

“หมอเสริฐ” ถอยดีกว่า ขาย BH ดีกว่า : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3631 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค.2563 By...เจ๊เมาธ์

 >> ดัชนีหุ้นไทยปรับฐานใหม่ทำใหัแนวต้าน 1,400 ที่เคยเป็นแนวต้านใหญ่ก็เลยกลายมาเป็นแนวรับไปซะอย่างงั้น แต่การปรับฐานที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ว่าจะปรับขึ้นมาได้ง่ายๆ  เพราะมีสารพัดข่าวดีหนุน ดันดัชนีหุ้นไทยขึ้นมาได้แบบนี้  

 

เริ่มต้นจากแนวโน้มความพ่ายแพ้ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อด้วยการประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 ของบริษัท BioNTech ที่บอกว่ามีประสิทธิภาพสูงถึง 95% ตามต่อด้วยวัคซีนของบริษัท Moderna ที่วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงถึง 94.5% และยังมีของ AstraZeneca ที่มีประสิทธิภาพเพียง 70% แต่มีข้อดีคือ สามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ (2-8 องศาเซลเซียส) และยังได้ผลดีในกลุ่มผู้สูงอายุอีกด้วย  

           

ต่อมาก็มีข่าวดีในเรื่องที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับและอนุญาตให้มีการถ่ายโอนอำนาจให้กับ นายโจ ไบเดน เพื่อให้ทีมงานของ นายโจ สามารถเข้าถึงข้อมูลและเอกสารสำหรับประธานาธิบดี ถึงแม้ว่า นายทรัมป์ จะยังไม่ประกาศยอมแพ้และยอมรับผลการเลือกตั้งก็ตาม ขณะเดียวกันการที่กลุ่มกบฏ Houthi ในเยเมนได้ยิงมิสไซล์ โจมตีถังเก็บนํ้ามันและสถานีจ่ายนํ้ามันของ Saudi Aramco บริษัทพลังงานแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย ในบริเวณเมือง Jeddah ก็ทำให้ราคานํ้ามันดิบขยับราคาขึ้นไปอีก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

BDMS ทิ้งหุ้น BH เกลี้ยงพอร์ต 1.8 หมื่นล้าน

ย้อนไทม์ไลน์ก่อน BDMS ขายทิ้ง BH เกลี้ยงพอร์ต

กลุ่ม PRINC สยายปีก ซื้อหุ้น BH 1.8 หมื่นล้าน

"สาธิต วิทยากร" เข้าซื้อ BH วางเป้าผนึก PRINC เสริมศักยภาพธุรกิจในกลุ่ม

BH เผย 'สาธิต วิทยากร' ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ไม่ส่งผลต่อนโยบายบริหารบริษัท 

รพ.พรีเมียมแข่งเดือด พริ้นซ์ผนึก BH ท้าชน

 

ทั้งหมดที่ว่ามาก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไปสูงเหนือ 3 หมื่นจุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้อานิสงส์นี้ตามไปด้วย นัยว่าดีขึ้นนอกเหนือไปจากเงินต่างชาติ (Funflows) ก็ยังได้วิ่งตามดัชนีหุ้นที่ปรับขึ้นทั่วโลกนั้นเอง

>>  ข่าวการร่วมลงทุนใน บริษัท เงินสดทันใจ บริษัทย่อยในเครือ SAWAD กับ แบงก์ออมสิน  เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทำให้ราคาหุ้นของ  SAWAD ภายใต้การบริหารของ สาวเอื้อยดวงใจ แก้วบุตตา วิ่งแรงต่อเนื่อง  แม้ยังไม่ถึงจุดสูงที่สุดในรอบปีที่เคยทำไว้ (81 บาท) แต่การจับมือกับธนาคารออมสิน ส่งผลให้แนวโน้มราคา SAWAD ไปต่อมีสูงมาก เพราะถึงจุดนี้ การมีทั้งแหล่งเงินทุนขนาดใหญ่...และฐานข้อมูลเด็ดที่ทั้ง SAWAD และ ออมสิน จะเอามาใช้เป็นฐานเพื่อต่อยอดธุรกิจต่อไปกลายเป็นแต้มต่อทางธุรกิจไปแล้ว

           

ขณะเดียวกันการเข้ามาเล่นเกมนี้ของออมสิน กดดันธุรกิจลีสซิ่ง ที่เคยโกยรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม อย่างเป็นกอบเป็นกำ ต้องสะดุดลง เพราะเงินทุนมหาศาลของธนาคารออมสิน จะเข้ามากดให้ดอกเบี้ยให้ตํ่าลงไปจากเดิม 3-5%  กลายเป็นว่า SAWAD รอด...แต่ลีสซิ่งรายอื่น อยู่กันลำบากมากขึ้นแน่นอน ถ้าไม่เชื่อคอยดูต่อไปก็แล้วกัน

         

>>  มหากาพย์ล้างพอร์ตหุ้นของ BDMS ที่จะขายหุ้นของ BH (โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์) ที่ถืออยู่จำนวน 22.71% มูลค่ารวม 1.86 หมื่นลบ. ออกมาทั้งหมด ในราคาเริ่มต้นที่ตํ่ากว่าราคาหน้ากระดาน (26 พ.ย. ขายล็อตแรก 90.5 ล้านหุ้น ที่ราคา 103 บาท) กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ BH ปรับราคากลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะการจากไปของ BDMS ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ๆ ในขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกราย ก็ออกมายืนยันว่าจะไม่มีการของหุ้นของ BH ออกมาแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ จังหวะที่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 ที่เริ่มออกมาแล้ว และรวมถึงโอกาสที่จะมีนโยบายการบริหารใหม่ ๆ ที่อาจจะดีขึ้น จะทำให้ BH ไปได้ดีกว่าเดิมก็เป็นได้

         

>>  เหตุผลลึกๆ ที่ หมอเสริฐ ที่เคยอมหุ้น BH ไว้กว่า 22 % ไม่ได้มีประโยชน์กับ BDMS ที่จะใช้ต่อยอดธุรกิจใด ๆ ได้เลย เพราะเข้าไปแบบไม่เป็นมิตร ครั้นจะถือลงทุนแช่ไว้อย่างเดียว ก็ได้แค่เงินปันผล ขณะที่ธุรกิจรพ.ของ BH ที่พึ่งพาคนไข้ต่างชาติเป็นหลัก ช่วงโควิด คนไข้โควิด หายหมด การถือหุ้นไว้เฉย ๆ ไม่ดีแน่ สู้ขายหุ้นแล้วกำเงินร่วม 2 หมื่นล้านบาท ไปลงทุน สนามบินอู่ตะเภา ปังกว่าเยอะค่ะ

         

>>  ฟาก หมอพงษ์ศักดิ์ วิทยากร ที่ส่งลูกชาย สาธิต วิทยากร รับไม้ต่อซื้อ  BH จาก หมอเสริฐ แหม่ !!! แรก ๆ ปากแข็ง ว่าไม่มี๊ ไม่มี ไม่มี พริ้นซิเพล แคปปิตอล ( PRINC ) ที่ 2 คนพ่อลูกถือหุ้นใหญ่ เป็นเจ้าของ ซื้อหุ้น BH ...พูดไปไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายกลืนนํ้าลายตัวเอง คนที่ซื้อ ไม่ใช่ PRINC แต่เป็น สาธิต เจ้าของ PRINC  ....5555 แล้วมันต่างกันตรงไหนเจ้าค่ะ เดี๊ยนไม่เข้าใจ

>>  เจ๊เมาธ์จะขอยํ้าเรื่องหุ้นต้นนํ้าชั้นดีอย่าง SCGP ให้ฟังอีกรอบนะคะ เจ๊ยืนยันเอาไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าใครต้องการที่จะถือหุ้นยาวๆ  และจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แนะนำเลยว่าหุ้นอย่าง SCGP ตัวนี้ดีมากค่ะ เพราะนอกจากเรื่องของโมเดลธุรกิจที่ดูดี โปรดักที่มีอนาคต หุ้นตัวนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าเสถียรภาพ (Stability) ในการดำเนินธุรกิจที่สูงมาก ดังนั้นขอแค่เพียงนักลงทุนมีความเชื่อมั่นแล้วทุกอย่างจะเดินไปตามเกมของมันเองนะคะ ประมาณว่า คิดการใหญ่...ใจต้องนิ่งแบบนี้เลยค่ะ

 

>>  ข่าวการมาของวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 หลายตัวทำให้หุ้นที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการระบาดของ Covid-19 อย่าง STGT และ STA ต้องปรับลดฐานราคาจากที่เคยทำเอาไว้เกือบๆ ร้อยบาท (94 บาท) สำหรับ STGT และ 36 บาท สำหรับ STA มีความจำเป็นที่จะต้องปรับฐานราคาใหม่ เพราะหลังจากนี้ไปทั้ง STGT และ STA จะต้องยืนราคาอยู่บนพื้นฐานของผลการดำเนินงานอย่างแท้จริง และผลการดำเนินงานที่แท้จริงที่ว่าก็ได้รับรู้กันไปแล้วว่าทั้งสองบริษัทได้เดินกำลังการผลิตอย่างเต็มความสามารถจนแทบจะขยายเพิ่มไปไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ค่าพรีเมี่ยม” (Premium) ที่เคยมีของหุ้นแม่ลูกคู่นี้จึงกลับมาอยู่ในระดับที่เป็นปกติ “ไม่มีอะไรพิเศษ” แต่อย่างใดอีกแล้ว ดังนั้นคนที่ติดดอยสูงก็คงต้องทำใจได้เลยนะคะ อีกนานค่ะ