แกนนำม็อบ แข่ง"สะสมคดี"

ยิ่งชุมนุมแกนนำยิ่งสะสมคดี บางคดีโดนแจ้งเพิ่ม ล่าสุดคือ 12 แกนนำคณะราษฎร เป็นล็อตแรก เจอหมายเรียกมารับทราบถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ม.112 แว่วว่าจะมี 4-5 คนตามมาเป็นล็อตสอง

เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์เฟซบุกแจ้งข่าวเรื่องถูกแจ้งข้อหา ม. 112 ต่อเนื่อง ครั้งแรกเวลา 20.58 น.วันที่ 24 พ.ย.2563 บอกมีหมายเรียกจากตำรวจปราบปรามการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ (ปอท.) ให้ไปรับทราบการกระทำผิดม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

วันถัดมาเวลา 12.52 น. บอกเจออีก 2  หมาย ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากระทำผิดม.112 เพิ่มเติม ในคดีจัดชุมนุมสี่แยกคอกวัว 14 พ.ย. 2563 กับจัดชุมนุม 19 กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร ระหว่าง 19-20 ก.ย. ที่ธรรมศาสตร์ต่อเนื่องสนามหลวง

และคงทะยอยมาอีกเรื่อย ๆ

นับแต่รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายทุกฉบับทุกข้อหากับผู้ชุมนุม ตำรวจปัดฝุ่นความผิด ม.112 ไล่แจ้งข้อหาเพิ่มแกนนำม็อบคณะราษฎร ที่แต่ละคนถูกแจ้งขอหาต่างกรรมต่างวาระเรียงคดีกันอ่วมอรทัยจนนับไม่ไหว

ล็อตแรก 12 คน  นำหน้ามาด้วย

1.เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ใน 8 คดี ที่สภ.ขอนแก่น สภา.พระนครศรีอยุธยา สภ.เมืองอุบลราชธานี สภา.เมืองร้อยเอ็ด สภ.เมืองนนทบุรี สน.ชนะสงคราม และคดีที่บก.ปอท.ยังไม่รับคดี

2.รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ใน 6 คดี ที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี  สภ.พระนครศรีอยุธยา สภ.เมืองนนทบุรี สน.ชนะสงคราม สน.บางโพ และสน.ทุ่งมหาเมฆ

3.ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก ใน 4 คดีที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี  สภ.พระนครศรีอยุธยา สภ.เมืองนนทบุรี และสน.ชนะสงคราม

4.อานนท์ นำภา 4 คดี ที่สน.ชนะสมคราม สภ.เมืองเชียงใหม่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี และคดีที่ บก.ปอท. ยังไม่รับคดี

5.มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล มี 3 คดีที่สน.บางโพ สน.ทุ่งมหาเมฆ และสน.ยานนาวา

6.ชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดีที่สน.บางโพ และสน.ทุ่งมหาเมฆ

ที่เหลือคนละ 1  คดี คือ  7.อั๋ว-จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ที่ สน.บางโพ 8.ปิยรัฐ จงเทพ ที่สภ.เมืองอุบลราชธานี 9.ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ที่ สน.บางโพ 10.อรรถพล บัวพัฒน์ ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ 11.ชูเกียรติ แสงวงศ์ ที่สน.ท่าพระ และ 12.สมบัติ ทองย้อย ที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ

ยังไม่รวมข้อหาในความผิดยิบย่อยอื่นๆ  ที่ตำรวจหรือเจ้าพนักงานแต่ละท้องที่สามารถแจ้งการกระทำผิดในข้อกฎหมายต่างๆ อันเนื่องจากการชุมนุม ที่เมื่อรวมแล้วแกนนำแต่ละคนมีหวังเจอคดีเป็นหางว่าว

แค่เฉพาะการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการชุมนุม ช่วง 13-22 ต.ค. 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตำรวจนครบาล สรุปตัวเลขการดำเนินคดีทั้งหมด 81 ราย ผู้ต้องหา 78 คน มีผู้ต้องหาที่มีคดีซ้ำกัน 3 คน แบ่งเป็นข้อหาสำคัญคือ

ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 46 ราย

ชุมนุมมั่วสุมก่อความวุ่นวาย 21 ราย

ประทุษร้ายพระราชินี ป.อาญา ม.110 จำนวน 3 ราย

ยุยงปลุกปั่น 10 ราย

ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามป.อาญา ม.368 จำนวน 1 ราย

กรณีบุกรุกโบราณสถาน เช่น สนามหลวง ที่เข้าไปปักหมุดคณะราษฎร ก็โดนแจ้งข้อหาผิดพ.ร.บ.โบราณสถาน 

ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.จราจร พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.การจุดชุมนุมสาธารณะ

รวมๆ แล้วแกนนำม็อบสะสมคดีความเลยกว่า 80 หมาย มาไกล และยังไม่มีจุดสิ้นสุด ตราบใดที่ยังเดินหน้า "จัดชุมนุม" แบบทะลุเพดานอย่างที่ประกาศต่อไปไม่หยุดยั้ง