>> บทจะมีข่าวดี ก็มีเข้ามามาก ทั้งข่าวการลงนามในสัญญาการค้า RCEP มูลค่า 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสัญญาการค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงข่าว GDP ของไทยในไตรมาสที่ 3/63 ที่ติดลบแค่ -6.4% ดีขึ้นจาก -12.1% ในไตรมาสที่ 2/63 ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 63 GDP ของไทยหดตัวลงเพียง -6.7% ประมาณการทั้งปี GDP ของไทยจะลดลงราว -6% จากที่คาดว่าจะลดลงถึง 7.8%
ขณะที่ความคืบหน้าวัคซีนป้องกันเชื้อ Covid-19 เพิ่มอีก 1 ราย คือ Moderna รายงานผลการทดสอบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 ว่ามีประสิทธิ์ภาพสูงถึง 94.5% และมีประสิทธิ์ภาพสูงกว่าวัคซีนของ Pfizer ที่มีผลการทดสอบที่ 90% ขณะที่วัคซีนของ Pfizer ต้องเก็บเอาไว้ภายใต้อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส แต่วัคซีนของ Moderna กลับสามารถจัดเก็บได้ในตู้เย็นปกติ ซึ่งนั้นก็จะทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง
ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกมีมากกว่า 55 ล้านคน เสียชีวิตจาก Covid-19 สะสมมากกว่า 1.3 ล้านคน ในขณะที่วัคซีนของทั้ง Pfizer และของ Moderna อยู่ในขั้นการทดลองในระดับที่ 3 เท่านั้น...กว่าจะถึงขั้นตอนการผลิตในเชิงพาณิชย์ น่าจะเป็นช่วงปี 2564 ซึ่งก็หมายความว่า ถึงแม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะขานรับความคืบหน้าของวัคซีน แต่ในความเป็นจริงภาวะเศรษฐกิจแท้จริงโดยรวมยังแย่ไปอีกนานนั่งเอง ยังไม่ต้องรีบดีใจเกินไปนะคะ
>> ดูเหมือนว่า MINT จะเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์จากการลงนามในสัญญาการค้า RCEP มากที่สุดอีกหนึ่งตัว เพราะไม่เพียงแค่ราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นมาตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 18 บาท ขึ้นไปจนถึงราคา 25 บาทกว่า ๆ เท่านั้น แม้แต่ข่าวการขาดทุน 5,595 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/63 ถูกมองข้ามไปด้วยเช่นกัน ในความเห็นของเจ๊เมาธ์ มองว่า MINT เป็นหุ้นดีที่ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ เพราะโอกาสที่ไตรมาส 4/63 ยังมีโอกาสขาดทุน ซึ่งจะทำให้ยอดขาดทุนสะสมของ MINT ในปี 2563 มีมากกว่าผลการดำเนินงานก่อนหน้านี้ 3 ปีรวมกัน มันทำให้คิดว่าหุ้นดี ๆ ในตลาดยังมีให้เลือกอีกเยอะ...ไม่จำเป็นต้องรักหรือผูกพันกับหุ้นมากกว่าเงินทุนในกระเป๋านะคะ เจ๊คิดว่าน่าจะเลือกหุ้นดีมีอนาคตมากกว่านี้ดีกว่าค่ะ
>> CRC เป็นหุ้นใหญ่อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ อย่างน้อยที่สุดไตรมาสที่ 3/63 ก็มีกำไรออกมา นอกจากกำไรขายของ Online ผ่านทาง Omni Channel ยังมีกำไรจากการ Rebrand จาก ROBINSON เปลี่ยนมาเป็น CENTRAL ที่ เมกกะบางนา และที่ จ.อุดรธานี เพิ่มยอดขายได้อีก 20% ในขณะเดียวกัน CRC ยังคาดหวังว่า ไตรมาสที่ 4/63 มาตรการของรัฐในเรื่อง “ช้อปดีมีคืน” จะกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้นอีกด้วย มีความหวังว่าปี 63 นี้ ยังพอมีกำไรเหลือบ้าง ที่น่าสนใจว่า นักลงทุนที่ติดดอยราคา IPO 42 บาท จะลงดอยได้ในเวลาอันใกล้นี้ก็เป็นได้ อย่างน้อยที่สุด บล.หยวนต้า ก็ให้ราคาเป้าหมายของ CRC เอาไว้ที่ 42 บาท...ดีใจล่วงหน้าด้วยนะได้ลงดอยกันซะที บนดอยมาหนาววว
>> ราคาหุ้น LEO ของ เสี่ยตุ๋ย เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ถูกไล่ราคาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากราคาจอง 3.42 บาท ขยับขึ้นมาใกล้ราคา 5 บาท ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์นั้น ไม่ใช่แค่กำไรไตรมาส 3/63 ที่ขึ้นมาถึง 284% เท่านั้น แต่เรื่องความชำนาญการขนส่งสินค้าทางทะเล ทำให้ LEO สามารถก้าวข้ามวิกฤติการณ์โควิดไปได้ ก็เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ในขณะที่ Model ทางธุรกิจที่ LEO ได้อานิสงส์ไปเต็มๆ จากการขายสินค้าออนไลน์ ทำให้หุ้นตัวนี้ถูกจับตามมองเป็นพิเศษ...เจ๊เมาธ์แว่วข่าวมาว่า อาจจะมีการประกาศความร่วมมือทางธุรกิจของ LEO กับพันธมิตรบิ๊กเบิ้มข้ามชาติ ทำให้พื้นฐานทางธุรกิจของ LEO เปลี่ยนไปอีกนาน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเจ๊เมาธ์ก็กำลังรอดูอยู่เหมือนกันนะคะ มีเรื่องดีๆ เจ๊จะเอามาบอกต่ออีกค่ะ
>> นาทีนี้ มีหุ้น IPO เข้ามาต้องเลือกแล้วล่ะค่ะ สำหรับเจ๊แล้ว JR (เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ ) น่าสนใจเพราะอะไรหรือค่ะ ธุรกิจไม่มีใครเทียบ ไม่ว่าจะเป็นโมเดลธุรกิจ ครอบคลุมระบบไฟฟ้าและโทรคมนาคม บริการออกแบบ จัดหา ติดตั้งงานระบบไฟฟ้า (Electrical Power System) และระบบสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunication and Information Technology System) แบบครบวงจร ความน่าสนใจยังอยู่ที่จังหวะการเข้าตลาดหุ้นกำลังเป็นขาขึ้นจากสารพัดข่าวดี น่าสนใจว่าหุ้น IPO ตัวนี้ไปได้ไกลแค่ไหน แค่ตื่นตอนตอนเช้าๆ ไม่ต้องสะดุ้ง ว่าวันนี้ JR จะมีงานใหม่ๆ เข้ามามั้ย แค่งานในมือตอนนี้ 6,400 ล้านบาท กินยาวไป 2 ปีข้างหน้าโน้น ยังไม่นับงานที่จ่อเข้าใหม่อีก เพราะ “พี่ใหญ่-จรัญ วิวัฒน์เจษฏาวุฒิ” คนนี้รวยเพื่อน มีแต่พันธมิตรหยิบยื่นงานให้ ไม่ใช่แค่รวยเพื่อน แต่ JR เครดิตดี การเงินแกร่ง แถมยังเติบโตดีในอนาคต...หุ้น 5 ดาวของ “เฮียแกะ-ฟินันเซีย ไซรัส” แล้วล่ะค่ะ