เวทีรัฐสภา กับทางออกของประเทศ

27 ต.ค. 2563 | 13:00 น.

เวทีรัฐสภา กับทางออกของประเทศ : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3622 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 29 - 1 ต.ค.63 โดย... ว.เชิงดอย

 

+++ ตอนแรกหลายคนอาจจะคิดว่า การประชุมร่วมกันของ “รัฐสภา” เพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 เพื่อแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เสนอแนะทางออกประเทศ ที่มีการชุมนุมของกลุ่มประชาชน นิสิตนักศึกษา ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร ไม่น่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ น่าจะเป็นการ “โต้เถียง” กันไปมา เกิด “สงครามน้ำลาย” เสียมากกว่า
 

+++ แน่หล่ะ “สภา” เป็นที่พูด ก็ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มีการตอบโต้ โต้เถียงกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่เท่าที่ฟังการอภิปรายของทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เมื่อประมวลเป็นข้อเสนอออกมา หลายข้อเสนอถือว่า “เป็นประโยชน์” ที่หาก “รัฐบาลลุงตู่” และ “มวลชน” ที่ชุมนุม นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติ และ “ถอยคนละก้าวสองก้าว” ก็น่าจะพอเห็นทางออกอยู่บ้าง

+++ สำหรับข้อแนะนำที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน เสนอ อาทิ นายกฯ ลาออก, เร่งแก้ไขรธน.ให้เร็วที่สุด, แก้รธน.คืนอำนาจให้ประชาชน, ปลดเงื่อนไขที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติ, พิจารณาข้อเสนอประชาชน-นักศึกษา, ปล่อยนักศึกษาที่ถูกจับกุมคุมขัง, ยกเลิกการดำเนิคดีผู้ชุมนุม, ทำประชามติว่าจะให้ “นายกฯ” บริหารต่อไปหรือไม่, เสนอให้พรรคร่วมทบทวนการร่วมรัฐบาล และให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการสลายการชุมนุม ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เสนอว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องดำรงอยู่ต่อไป,  ตั้งคณะกรรมการทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก,  เร่งนำร่างแก้รธน.ของไอลอว์บรรจุวาระเพื่อให้พิจารณาไปพร้อมกับญัตติอื่น, รธน.ต้องยึดโยงกับประชาชน, ทำประชามติร่างรธน.หลังผ่านรัฐสภา, รัฐบาลต้องประกาศให้ชัดว่าจะแก้ไขรธน.เสร็จเมื่อไหร่ และ ต้องเคารพความเห็นต่างทางการเมือง ขณะที่ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เสนอตรงข้ามกับข้อเสนอของฝ่ายค้าน ในประเด็น “นายกฯ” ควรลาออกหรือไม่ โดยส.ว.เห็นว่า นายกฯ ไม่ควรลาออก, ต้องเร่งแก้ไขรธน., ตั้งส.ส.ร.ยกร่างรธน.ใหม่, ตั้งคกก.ฟังข้อเสนอทุกภาคส่วน, ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน, เปิดเวทีกลางฟังความเห็นผู้ชุมนุม, ต้องยกเลิกเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน และ ทำประชามติเห็นด้วยกับการชุมนุมหรือไม่
 

+++ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ “หัวหน้ารัฐบาล” ได้ให้คำยืนยันว่า สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งเป็นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า จะมีการพิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือน พ.ย. ซึ่งการพิจารณาวาระที่ 1-3 น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.นี้ แต่ยังประกาศใช้ไม่ได้ เพราะต้องมีการทำประชามติก่อน โดยรัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า และหลังจากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว จึงจะมีการทำประชามติ
 

+++ “นายกรัฐมนตรี” บอกว่า จากที่ได้ฟังประเด็นต่างๆ จากการอภิปราย  รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด ส่วนข้อเรียกร้องให้ “นายกฯ ลาออก” จากตำแหน่งนั้น ได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว ถ้านายกฯ ลาออก จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ได้รับคำตอบว่า ถ้านายกฯ ลาออก ครม.ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 (1) ซึ่งระบุว่า นายกฯ และครม.จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า ครม.ใหม่เข้ารับหน้าที่ และจะต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่จากรัฐสภา โดยต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา จะอาศัยเสียงส.ส.ไม่ว่าจะพรรคข้างใดข้างหนึ่ง ก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ต้องมีเสียง ส.ว.ด้วย ส่วนการ “ยุบสภา” ก็จะทำให้สมาชิกภาพของ ส.ส.ทุกคนสิ้นสุดลง จึงไม่แน่ใจว่าต้องการเช่นนี้กันหรือไม่

+++ หันไปดู “ดาบสอง” การสั่งดำเนินคดีอาญา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากกระทำผิด มาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กู้ยืมเงิน 191.2 ล้าน จากนายธนาธร หัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติให้สำนักงานกกต.แจ้งความดำเนินคดีอาญา กับทั้งหมดแล้ว ฐานความผิดฐานบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท ตามที่มาตรา 66 วรรคหนึ่งพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 กำหนด ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา124 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ขณะที่กับอดีตกรรมการบริหารจะดำเนินคดีฐานกระทำผิดมาตรา66 วรรคสองและมาตรา 72 ประกอบมาตรา 137 รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลโดยมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปี และรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อันรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีโทษตามมาตรา 125 และมาตรา 126 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนเงิน กู้ 191.2 ล้านบาท ที่ตามมาตรา 125 กำหนดไว้ว่า ให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
 

+++ ส่วนที่เกินกว่า ที่กำหนดไว้ในมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองนั้น คาดว่า กกต.ยังไม่ได้ข้อยุติในส่วนนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างสำนักงานกกต.และคณะที่ปรึกษากฎหมายของกกต. โดยทางฝ่ายสำนักงานเสนอว่าสามารถที่จะยึดเงินเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองได้ แต่ทางคณะที่ปรึกษากฎหมายของกกต.เห็นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ก็ไม่เหลือ พรรคการเมือง ที่จะให้กกต.ไปเรียกเงินมาเป็นของกองทุนฯได้ … นี่คือวิบากกรรมของ ธนาธร และ พวก ที่ต้องเผชิญ
 

+++ ไปปิดท้ายกันที่ หลักสูตร DE4M รุ่น 13 ของมูลนิธิวิจัยและพัฒนาองค์กรรัฐ( IRDP) เชิญ อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บรรยายหัวข้อ “ไทยแลนด์ 4.0 กับ อนาคตเศรษฐกิจดิจิตอล”(Thailand 4.0 & The Future of Digital Economy ) วันที่ 29 ตุลาคม 2563 เวลา 9.00-12.00 ณ โรงแรมอิสติน แกรนด์ สาธร