หวังรัฐสภา ผ่าทางตันประเทศ

22 ต.ค. 2563 | 04:00 น.

หวังรัฐสภา ผ่าทางตันประเทศ : บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3620 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 22-24 ต.ค.2563

 

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)แถลงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมล่าสุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในช่วงที่ผ่านมาช่วยให้กำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
 

คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงจากปัจจัยความกังวลต่อการระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน หลายประเทศจึงใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของไทยในระยะต่อไป และห่วงว่าการสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ในเดือนตุลาคม อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจและกำลังซื้อในประเทศ

อย่างไรก็ดีแม้สถานการณ์เศรษฐกิจจากการสำรวจ ออกมาแนวโน้มดี แต่ภาคธุรกิจมีความกังวลปัจจัยสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งนักธุรกิจต่างชาติโดยเฉพาะนักธุรกิจจีนได้สอบถามและเฝ้ามองพัฒนาการทางการเมืองในไทย ทั้งกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติประเทศอื่นก็เช่นเดียวกัน และเริ่มมีผลชัดเจนมากขึ้น สะท้อนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปิดแบบทรุดตัวลงในช่วงของการชุมนุมมวลชนและมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
 

สถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง ที่ส่งผลกระทบกับทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบทุกด้านในสังคม เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องหาทางออกร่วมกัน โดยสันติวิธีเป็นหมุดหมาย ในการหาทางออกจากทางตันให้กับประเทศ โดยฝ่ายรัฐบาลผู้ถืออำนาจจำต้องฟังเสียงเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาว ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องไม่ใช้ความรุนแรงในทุกด้าน ทั้งคำพูดจาปราศรัยหรือการแสดงออกอื่นๆ ที่สำคัญต้องไม่ละเมิดสิทธิ์และหมิ่นประมาทผู้อื่น
 

เราเห็นด้วยกับความพยายาม ในการหาทางออกให้ประเทศ ผ่านการพูดคุยอภิปรายถกเถียงในเวทีของรัฐสภา เราอยากเห็นสมาชิกรัฐสภาเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็น และสะท้อนข้อเรียกร้องของทุกกลุ่มในสังคมทั้งหมด มีปัญญาในการชี้นำทางสว่างให้สังคม ทั้งสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งและสมาชิกที่มาจากการสรรหา ต้องทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างมีความอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด