+++ “ในส่วนของคดีเงินกู้ขณะนี้สำนวนได้มาถึงกกต.เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างพิจารณา คาดว่าจะสามารถลงมติในเร็วๆ นี้ หรือถ้าสัปดาห์หน้าสามารถลงมติได้ก็จะลงมติ”
+++ คำกล่าวของ อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ระบุถึงการพิจารณาการดำเนินคดีอาญากับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ 14 อดีตกรรมการบริหารพรรค ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคจาก “คดีเงินกู้ยืม”
+++ ประธาน กกต.บอกด้วยว่า การพิจารณาจำเป็นต้องใช้เวลาเนื่องจากต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่ หรือดำเนินคดีในด้านใดและใครบ้าง ยืนยันว่าพยานหลักฐานทางเจ้าหน้าของกกต.ที่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว โดยเรื่องนี้กกต.จะต้องศึกษาโดยละเอียดก่อนที่จะลงมติ ซึ่งหลังจากลงมติแล้ว จะให้เจ้าหน้าที่ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
+++ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา สนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 สั่งยุบพรรค จากคดีเงินกู้ยืม โดยเห็นว่าผ่านมาเกือบ 8 เดือนแล้ว ไม่พบว่า กกต.สั่งดำเนินคดีอาญาหวหน้าพรรคและกก.บห.ที่กระทำความผิดมาตรา 66 และ 72 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 124 และ มาตรา 125 จำคุก 1-3 ปี
+++ สนธิญา ชี้ว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ย่อมมีผลผูกพันให้ทุกองค์กรต้องปฎิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถ้ากกต.ไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ และกรณีนี้ กกต.ไม่จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานใดๆ เพิ่มอีก เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชัดเจนอยู่แล้ว โดย กกต.สามารถฟ้องตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เลย
+++ สำหรับกก.บห.พรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีอาญา รวม 15 คน ประกอบด้วย 1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล 3.น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 4.นายชำนาญ จันทร์เรือง 5.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 6.น.ส.พรรณิการ์ วานิช 7.นายไกลก้อง ไวทยการ
+++ 8.นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ 9.นายสุรชัย ศรีสารคาม 10.นายเจนวิทย์ ไกรสิงห์ 11.น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 12.นายชัน ภักดีศรี 13.นายสุนทร บุญยอด 14.นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร และ 15.นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์
+++ ดาบแรก “ยุบพรรค” ดาบสอง “ฟันอาญา” รอลุ้นชะตากรรม 15 ผู้บริหารอนาคตใหม่กันต่อไป...