อังกฤษก็ให้ความนับถือเทพยดา : โขนรถพระที่นั่ง

17 ต.ค. 2563 | 01:00 น.

อังกฤษก็ให้ความนับถือเทพยดา : โขนรถพระที่นั่ง เทพีบริทันญ่า และ เซนต์จอร์จ เดอะดราก้อน สเลเย่อร์

มีผู้สอบถามเรื่องอังกฤษอังกฤษเข้ามามาก ว่าลึกๆลับๆแล้วมีอะไรมากกว่าบทความวิชาการทั่วไปในท้องตลาดพอเปนตัวอย่างได้อีกบ้าง โดยเฉพาะท่านผู้ได้รับทุนนิวตัน ฟันด์ ประจำปีนี้ ก็ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย

 

นึกๆแล้วก็จะขอยกเรื่องไม่ไกล แต่ทั่วไปไม่ได้สังเกตและทราบความหมายเปนตัวอย่างสักเรื่อง ท่าจะดี

 

รถยนต์พระที่นั่งในราชสำนักเซนต์เยมส์ของบริเตนใหญ่นั้น อันแบบว่าเปนทางราชการที่เรียกกันว่า royal fleet เดิมทีบริษัท เดมเลอร์ เปนผู้สร้างถวายตั้งแต่โบราณกาลมา ภายหลังจะประสบปัญหาใดไม่ทราบชัด โรลสรอยซ์ได้พัฒนาขีดความสามารถเข้าถวายงานก็กระทำได้ดีมีคุณภาพ เบียดเดมเลอร์ตกที่นั่งอย่างตกกระป๋อง ต้องไปรวบๆรวมกับจากัวร์เปนรถลำดับรอง ไม่เต้ยเหมือนก่อน

 

รถพระที่นั่ง

 

ข้างโรลสรอยส์นี่ ก็เปนรถหรูหราใหญ่โตเทอะทะ ฝรั่งว่า full size ขับเคลื่อนด้วยพละกำลังยนต์ขนาดใหญ่ มีความประณีตสูง จนเยอรมันผู้เคลมว่าเปนผู้ผลิตยนตรกรรมคันแรกของโลก ค่อนเข้าให้ว่า อังกฤษเขาทำประติมากรรมเคลื่อนที่ได้ ไม่ใช่รถยนต์ (ฮา)

 

ที่ไปเข้าทางตามเขาว่าก็ด้วยหน้ากระจังรถมีตราสัญลักษณ์เปนตัวโขน มาสคอท รูปสปิริต ออฟ เอคสตาซี่ เทพีแห่งความเร็วเงียบ ( silent speed) กางปีกสยายลมชำแรกอากาศปะทะแรงวายุ (จริงๆ ลมตีผ้าจีวรกรีกสยายไป เลยดูคล้ายปีก) ยืนอยู่บนหน้าของฝากระโปรง ทำจากเงินยวงสเตอลิง หนาหนักประติมากรรม เเลจะจริงอย่างพวกเบนซ์ว่า

 

รูปเทพีคุกเข่า

 

เดวิด โอกิลวี่ เล่าให้ฟัง ในสมัยที่ สำนักงานบนถนนเมดิสัน อเวนิวของเขา รับงานโฆษณาให้โรลสรอยส์ ว่า ยังมีเบนทลี่ย์อีกยี่ห้อหนึ่ง ที่โรงงานโรลสรอยซ์ทำชะรอยเปนรถแก้คำครหาของเยอรมัน ด้วยหน้าตารูปร่างเครื่องยนต์ เหมือนกันทุกประการ ออกมาจากโรงงานเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ปลดตราโขนเทพีออก หน้ากระโปรงรถเบนทลี่ย์จะเรียบๆ ไม่ประติมากรรม สงกะสัยจะคล้าย โรเล็กซ์มีทิวดอร์ รึ โตโยต้ามีเล็กซัส กระนั้น

 

ทว่าเมื่อเขาถวายงานเปนรถราชการพระที่นั่งแล้ว ยายคุณเทพีแม้คันใดจะยังมีอยู่ โรงงานโรลสรอยซ์ก็จะทำให้เเปลงรูปจากร่างยืนทระนงเล่นลม เปนคุกเข่านอบน้อมรับอากาศแทน  (แม้ส่วนปีกจะแกว่งหน้าผวาออกตามกิริยาเร็ว-เงียบแต่ต้นก็ตาม) - หัดกิริยามารยาทให้นอบน้อมสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันที _ ก็เขาประเทศผู้ดีนี่นะ พวกพรรคแรงงานจะมาทำดึ๋งดั๋ง ก็ฉากหน้าก็ถ่ายทำหลอกผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปก่อน ลับหลังก็สงบ เสงี่ยมอย่างเทพีเขานี่หล่ะคุณ

 

 

อังกฤษก็ให้ความนับถือเทพยดา : โขนรถพระที่นั่ง

 

ตานี้ก็มาถึงว่า อังกฤษนั้นแท้จริงก็ให้ความนับถือในเทพยดา ฝ่ายผู้ชายก็มีว่า ท่านเซนต์ -นักบุญ- จอร์จ มีนามกรขนานว่า Saint George The Dragon Slayer_ผู้สยบมังกร ทีนี้ฝ่ายอเมริกันก็เอาไปทำหนัง ให้มีชื่อ ลินคอร์น เดอะแวมไพร์ สเลเยอร์ ตามอย่างเขามั่ง อาศัยคุ้นๆหู คนจะได้อยากดูเปนไงล่ะ_เจ๊ง!
 

ท่านเซนต์ จอร์จ นี้ท่านเปนอัศวิน มีความกล้าหาญชาญชัยมาก สามารถเอาดาบแทงปราบมังกรไฟตัวร้ายได้ อังกฤษเคารพในบุญกิริยาความกล้าของท่านมาก ขอยกย่องท่านขึ้นเปนเทพผู้พิทักษ์อังกฤษ 

 

ขอทำความเข้าใจก่อนว่า เกาะอังกฤษ ที่ว่านี้คือตรงเฉพาะบริเวณบริเตนเปนหลักก่อน ชั้นต้นก่อนการรวมชาติไม่ได้ครอบคลุมไปถึงสก็อตแลนต์ และไอร์แลนด์เหนือ เราจึงจะเห็นเซนต์จอร์จท่านถือธงอังกฤษ คือธงขาว กาเส้นชาดแดง ปรากฏในรูปเคารพที่ต่างๆ 

 

หนึ่งในบรรดารูปเคารพหลากหลายของเซนต์ จอร์จ ที่ศิลปินสร้างสรรค์ ก็มีโขนรถยนต์พระที่นั่งของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อลิซเบธ ที่ 2 อยู่องค์หนึ่ง เปนรูปเซนต์จอร์จในชุดเกราะ ปราบมังกรที่สยบอยู่แทบบาทท่านหล่อลอยตัวด้วยเงินสเตอลิงบริสุทธิ์

 

เซนต์จอร์จแทงมังกร และเซนต์จอร์จ ถือธงอังกฤษเดิม

โขน มาสคอท รูปท่านนักบุญสยบมังกรนี้ สมเด็จฯท่าน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ติดตั้งหน้ารถยนต์พระที่นั่งที่ประทับใช้ในราชการทุกคราวไม่เว้นแม้แต่รถพระที่นั่งเบนท์ลี่ที่ฝากระโปรงราบเรียบ ส่วนรถพระที่นั่งโรลสรอยซ์นั้นให้ถอดเปลี่ยนโขนเดิม_ทำนองเปนเครื่องมงคลภิเษกฐานะอย่างหนึ่ง

 

อังกฤษก็ให้ความนับถือเทพยดา : โขนรถพระที่นั่ง

 

ในราชการฝ่ายไทยนั้น รถยนต์พระที่นั่ง  (โดยเฉพาะที่เปนโรลสรอยซ์ ซึ่งเดิมมีเบ้าฐานรองรับเทพี เอคสตาซี่อยู่บนฝากระจัง) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ใช้ตราโขนครุฑเเก้วลายทองประดับแทน ทั้งนี้เนื่องเพราะพระมหากษัตริย์ของไทยนั้น เราปวงชนนับว่าทรงเปนสมมติเทวราชอุปบัติ คือพระนารายณ์เทวเจ้าเสด็จอวตารลงมา พาหนะของพระนารายณ์คือ ครุฑ จึงใช้รูปครุฑติดที่พระราชพาหนะ 

เหมือนกับธงมหาราชที่ต้องเชิญชักขึ้นเสาในเขตพระราชฐานเมื่อเวลาเสด็จประทับ ณ ที่นั้นๆ เปนธงรูปครุฑ พวกชาววังโบราณระบุว่า เปนการบุคลาธิษฐานว่า ครุฑพาหนะของพระนารายณ์เปนเจ้านั้น แสตนบายรอถวายงานอยู่ใกล้ๆพระองค์ท่าน

ต่อตอน 2

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,619 วันที่ 18 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563