อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ของประชาชน

13 ต.ค. 2563 | 02:45 น.

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ของประชาชน : คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3618 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 15-17 ต.ค.2563 โดย... ประพันธุ์ คูณมี

ผมมิได้รู้จักกับ คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ได้ยินชื่อเสียงและติดตามการทำงานของท่าน จากข่าวสารทางสื่อมวลชนและในตำแหน่งรัฐมนตรีเท่านั้น ท่านได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีตั้งแต่เป็นรัฐบาล คสช. ต่อมามีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ นายอาคม มิได้เข้าร่วมใน ครม. แต่ก็ทำงานและให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรีตลอดมา ด้วยบุคลิกที่สุภาพ อ่อนน้อม มุ่งมั่น ทำงาน และตอบคำชี้แจงต่อสังคมอย่างชัดเจน หนักแน่นด้วยเหตุผล มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และปรากฏผลงานสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันหลายเรื่อง จึงทำให้ผมศึกษาและติดตามผลการทำงานของท่านด้วยความสนใจ

 

เมื่อได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 หลังจากรัฐบาลไม่มี รมว.คลัง มาร่วมเดือน โดยปรากฏชื่อชั้นเป็น นายอาคมดังกล่าว หลายคนในวงวิชาการและธุรกิจ รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป ต่างมีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ถึงความเหมาะสมและชื่นชมการตัดสินใจเลือกของนายกรัฐมนตรี 

 

โดยเฉพาะเมื่อได้อ่านข้อความที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตโฆษกรัฐบาลสมัย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โพสต์ผ่านเฟชบุ๊กของท่าน แสดงความยินดีและพูดถึงความเหมาะสมกับตำแหน่ง รมว.คลัง ของคุณอาคม ที่ได้รับแต่งตั้งครั้งนี้ โดยให้เหตุผลสนับสนุนว่า ที่นายกฯ เสนอแต่งตั้งคุณอาคม เป็น รมว.คลัง เป็นการใช้ดุลยพินิจที่รอบคอบ กล้าหาญ และเห็นแก่ประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง ดร.ไตรรงค์ ให้เหตุผลที่น่ารับฟังอย่างยิ่ง ซึ่งผมขออนุญาตคัดมาคำต่อคำดังนี้

 

1.คุณอาคม เป็นคนมีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ในระดับที่ถือว่าค่อนข้างดี ไม่เฉพาะแต่รอบรู้เรื่องทฤษฎีที่ใครๆ ก็สามารถเปิดตำราพูดได้ แต่คุณอาคม เป็นคนที่จะ #รู้ว่าทฤษฎีของฝรั่งนั้นมีอะไรบ้างที่ใช้ได้และใช้ไม่ได้กับบริบทสังคมไทย หรือถ้าจะใช้ทฤษฎีใด ก็ย่อมรู้ว่าจะใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ต้องปรับปรุงและประยุกต์อย่างไรให้เข้ากับบริบทสังคมไทย 

หน้าที่การงานของท่านส่วนหนึ่งที่บังคับให้ท่านต้องเป็นคนเช่นนั้น เพราะในฐานะเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ท่านต้องรับผิดชอบในการยกร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ที่จะยกร่างแผนฯ ให้ใช้ได้ผลจริงๆ จึงต้องเป็นผู้ที่รู้จักข้อมูลความเป็นจริงของประเทศ ว่าเหมาะที่จะใช้ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อันไหน มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้สอนกันไม่ได้ ไม่มีตำราตามห้องสมุดให้อ่าน จะรู้เองได้ก็โดยการผ่านการปฏิบัติงานมาอย่างโชกโชนเท่านั้น

 

2.คุณอาคม เป็นคนที่เกิดในชนบทที่ไม่เจริญ #ได้เห็นปัญหาความลำบากยากแค้นของคนชนบทมาตั้งแต่เกิด แล้วมารับการศึกษาพัฒนาความรอบรู้ให้มากขึ้นในเมืองหลวง เมื่อจบปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้มีโอกาสไปรับการศึกษาในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดความลึกซึ้งแม่นยำในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แบบตะวันตกมากยิ่งขึ้น

 

3. จากการที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สศช.(C11) และตอนหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ (หลังปฏิวัติ 2557) คนไทยก็จะ #ไม่เคยได้ยินเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตและความประพฤติมิชอบในเรื่องใดๆ เลย

 

เหตุผล 3 ข้อนี้ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับ ดร.ไตรรงค์ ที่ได้สรุปไว้ และผมก็มีความเชื่อเช่นเดียวกับท่านว่า คนที่มีความรู้มีความเข้าใจสังคมไทย ลึกซึ้งในทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ เติบโตและเข้าใจถึงวิถีชีวิตคนไทยในชนบท สัมผัสกับความลำบากยากแค้นของประชาชน โดยไม่ลืมตัวลืมตน ซื่อสัตย์สุจริต รักชาติรักแผ่นดิน มีคุณธรรม ศีลธรรม และได้รับการอบรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์มาอย่างดี ย่อมจะเป็นคนที่รู้วิธี สร้างนโยบายอย่างไรให้คนไทย และคนชนบทมีฐานะและโอกาสที่ดีขึ้น และมีวิธีใดที่จะทำให้นโยบายเหล่านั้นได้รับการสนับสนุน ดร.ไตรรงค์ ได้โพสต์ไว้ตรงใจกับที่ผมคิดทุกประการครับ รายละเอียดทุกท่านหาอ่านได้จากข่าวและเฟชบุ๊กของ ดร.ไตรรงค์

 

นอกจากฟังจาก ดร.ไตรรงค์ ที่เคยร่วมทำงานและรู้จักคุณอาคม ดีพูดแล้ว เมื่อได้ดูจากประวัติครอบครัว การศึกษา และการทำงานของคุณอาคม ทราบว่าท่านเป็นคนพื้นเพที่เกิดและเติบโตที่ จ.ศรีสะเกษ แผ่นดินที่แร้นแค้นทางภาคอีสาน จังหวัดใกล้เคียงกับผู้เขียน และมีประวัติการทำงานที่เติบโตก้าวหน้า โดยไต่เต้ามาตามลำดับชั้น มีประสบการณ์ทำงานที่เป็นจริง ไม่ใช่นั่งเทียนพูด หรือเพ้อเจ้อเห่อตามเศษฝรั่งถึงการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยตนยังไม่เคยทำงานอะไรสำเร็จ 

 

คุณอาคม จบ ป.ตรี ที่ธรรมศาสตร์,  ป.โท สหรัฐอเมริกา เป็นข้าราชการที่ สศช. เรื่อยมาจนได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งสูงสุดคือ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี 2553 จนถึงปี 2557 จึงลาออกมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ร่วมรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า คุณอาคม เป็นผู้หนึ่งที่นายกรัฐมนตรีไว้วางใจในการสอบทานข้อมูล และตัวเลขด้านเศรษฐกิจ มาตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นโควตากลาง-สายตรง ของนายกรัฐมนตรีมาตลอดถึงปัจจุบัน เป็นผู้ที่ขยันทำงาน ตอบทุกคำถามที่นายกฯ สงสัยข้องใจอยากรู้โดยแม่นยำและไม่ผิดพลาด และอธิบายเข้าใจง่าย

คุณอาคม เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ว่าท่านยึดหลักการทรงงาน 3 หลักการของในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตและการทำงานมาโดยตลอดคือ

 

“การปิดทองหลังพระ ทำงานไม่จำเป็นต้องออกหน้า ถ้าคิดว่างานที่เราทำเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อยู่เบื้องหลังเป็นฟันเฟืองของกลไกทั้งหมด ถ้าฟันเฟืองเล็กไม่เดิน ฟันเฟืองใหญ่ก็ไปไม่ได้”

 

“ความเพียรพยายาม แม้ว่างานจะยากแค่ไหนก็ต้องทำ เป้าหมายจะอยู่ใกล้หรือไกล ถ้าไม่มีความพยายามในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ก็ทำไม่สำเร็จ”

 

“ความเรียบง่าย ได้จากพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่าน สอนให้คนรู้จักประหยัด ใช้ในสิ่งที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย ความเรียบง่าย ชีวิตพระองค์เหมือนคนธรรมดา เราต้องทำตัวไม่มียศ ไม่มีศักดิ์ ทำงานให้ติดดิน”

 

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ผมจึงเชื่อและมีความเห็นว่า แบบอย่างชีวิตและการทำงานของคุณอาคม คือบุคคลที่มีบุคลิกลักษณะของผู้นำต้นแบบของคนไทย หรือรัฐมนตรีว่าการคลังที่ประชาชนต้องการ เหมาะสมแก่บริบทของสังคมไทย เป็นตัวอย่างของคนที่ใช้ความรู้ความสามารถที่เล่าเรียนมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่แผ่นดิน ประยุกต์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศชาติ ตามเอกลักษณ์ของสังคมไทย โดยไม่งมงายหรือจำเป็นต้องลอกเลียนแบบฝรั่งประเทศใด

 

ประเทศไทยมีรัฐมนตรีคลังมาแล้ว ตั้งแต่ยุค 2416-2475 เรียกว่า เสนาบดีว่าการกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ 10 ท่าน ยุคหลัง 2476-ปัจจุบัน จึงเรียกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สิ่งที่ประชาชนและประเทศนี้ อยากเห็นและต้องการที่สุดคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของประชาชน ที่สร้างนโยบาย และโอกาส กระจายความเจริญ สู่ประชาชนในทุกภูมิภาคอย่างทั่วถึง เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจนของคนในแผ่นดิน สร้างความอยู่ดีมีสุขแก่ประชาชนได้อย่างเห็นผล จึงหวังว่าคุณอาคม จะทำหน้าที่ได้ดีเช่นที่เคยทำมา และทำหน้าที่ได้ดีต่อไป ขอให้กำลังใจครับ