“พรรคเพื่อไทย” ที่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา จะเรียกว่า “เหล้าเก่า” ใน “ขวดเก่า” ก็ว่าได้
เพราะถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารใหม่ แต่ผู้ที่ได้รับการเลือกกลับเข้ามา ตัวหลักๆ ก็ยังเป็นคนหน้าเดิม ไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็น “ของใหม่” ไม่ว่าจะเป็น สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่คัมแบ็กในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เหมือนเดิม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ก็โยกจากเลขาธิการพรรค มาเป็นรองหัวหน้าพรรค กิตติรัตน์ ณ ระนอง, ชูศักดิ์ ศิรินิล, เกรียง กัลป์ตินันท์, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ก็ยังเป็นรองหัวหน้าพรรค เหมือนเดิม
จะมีเข้ามาใหม่ ก็เช่น พิชัย นริพทะพันธ์, สุทิน คลังแสง, ไชยา พรหมา, อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วน ประเสริฐ จันทรรวงทอง เดิมเป็นรองหัวหน้าพรรค ครั้งนี้ขยับบทบาทขึ้นมาทำหน้าที่เลขาธิการพรรค และ มีรองเลขาธิการพรรคอีก 5 คน โดยมี ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นเหรัญญิกพรรค จักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ส่วนน.ส.อรุณี กาสยานนท์ เป็นโฆษกพรรค
รายชื่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่นี้ พบว่าส่วนใหญ่ก็ยังเป็นคนใกล้ชิดคน “ตระกูลชินวัตร” เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาทิ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ และ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม
ส่วนคนที่ใกล้ชิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาทิ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และ คุณากร ปรีชาชนะชัย
ขณะที่กลุ่มคนที่มาจากอดีตพรรคไทยรักษาชาติ อาทิ พิชัย นริพทะพันธุ์ และ อรุณี กาสยานนท์ ขณะที่คนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นทายาทนักการเมือง อาทิ นพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค และ จิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์ เป็นรองเลขาธิการพรรค
การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหาร “เพื่อไทย” ไม่ให้ความรู้สึกใหม่ ขณะที่มีกระแสข่าวว่า “คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร” ได้เข้ามาอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเพื่อไทยครังนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ “แปลกใหม่” หรือให้ความรู้สึกใหม่แต่อย่างใด เพราะรับรู้กันมานานนมแล้วว่า “นายใหญ่-นายหญิง” อยู่เบื้องหลังพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชาชน ไทยรักไทย จนมาถึง เพื่อไทย