AOT ซวยซํ้าซาก

26 ก.ย. 2563 | 00:00 น.

AOT ซวยซํ้าซาก : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3613 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 27-30 ก.ย.2563 By... เจ๊เมาธ์

 

AOT ซวยซํ้าซาก
 

     >> คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายเอาที่ 0.50% ในขณะเดียวกันก็ปรับประมาณการณ์ตัวเลข GDP ของปี 2563 ให้ติดลบน้อยลงจากเดิม -8.1% เป็น -7.8% เนื่องจาก GDP ของไตรมาสที่ออกมาติดลบน้อยกว่าที่คาด แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณการส่งออกสินค้าที่ลดลงและเดิมที่คาดว่าปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวมาไทย 8 ล้านคน ก็จะลดลงเหลือ 6.7 ล้านคน และในส่วนของปี 2564 คาดว่ามี 16 ล้านคน ก็จะลดเหลือ 9 ล้านคน ดังนั้นประมาณการณ์ตัวเลข GDP ในปี 2564 จึงถูกปรับลงจาก 5% เหลือเพียง 3.6% โดยมีประเด็นเรื่องของการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศเข้ามาเป็นตัวแปรที่สำคัญ ซึ่งนั้นก็หมายความว่าในปี 2563 การทรุดตัวลงของภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่รุนแรงอย่างที่คิด แต่กลับจะลากยาวไปจนทำให้ภาวะทางเศรษฐกิจปี 2564 ได้รับผลกระทบตามไปด้วย นัยว่าเจ็บนี้ “เจ็บไม่มาก...แต่เจ็บนาน” นั้นเองค่ะ
 

     >> ความซวยร่วงลงมาทับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT อีกครั้ง หลังจากการแจ้งตลาดเรื่องที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการออกไปอีก โดยเหตุที่ประเทศไทยยังคงกำหนดมาตรการที่เป็นการจำกัดการเดินทางและการขนส่งทางอากาศ ในขณะที่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการบินและผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานยังไม่สามารถฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ และด้วยเหตุของการขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือนี้ทำให้ราคาหุ้นของ AOT ปรับร่วงลงไปถึง 4.24% เพราะนักลงทุนขาดความมั่นใจในเรื่องของผลการดำเนินงานของบริษัทที่อาจจะต้องขาดรายได้เนื่องจากมาตรการการช่วยเหลือที่ว่านี้

     >> ในความเป็นจริงแล้ว AOT มีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนในไตรมาสที่ 3/63 อยู่ถึง 2,933 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรทั้งปี คงเหลือเพียง 8,048 ล้านบาท ในขณะที่ในไตรมาสที่ 4/63 ก็ยังมีโอกาสที่ AOT จะยังขาดทุนต่อไปอีกหนึ่งไตรมาสเป็นอย่างน้อย เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดหวังเอาไว้จำนวน 16 ล้านคน ก็จะลดเหลือเพียง 9 ล้านคน ในปี 2564  ซึ่งนั้นก็หมายความว่าความตกตํ่าของ AOT ยังไม่ถึงจุดตํ่าสุดนั่นเอง ดังนั้นนักลงทุนที่มองหุ้นของ AOT จึงไม่จำเป็นต้องรีบ เจ๊เมาธ์เห็นว่าควรใช้เวลานี้ในการสะสมหุ้นด้วยการแบ่งไม้เล่น หรือไม่ก็เล่นสั้นเพื่อเก็งกำไรในจังหวะที่ราคาหุ้นร่วงลงก็น่าจะดีที่สุดนะคะ เวลายังมีอีกเยอะค่ะ
 

     >> หลังจากที่หุ้นกลุ่มธนาคารทั้ง KBANK BBL SCB และ KTB มีปัญหาเรื่องข่าวการโอนเงินสีเทาที่ทำให้กินพื้นที่และกดราคาหุ้นมาหลายวัน แต่เมื่อไม่มีความคืบหน้าอื่นใดมากดดัน ...ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารก็เริ่มกลับมาตั้งหลักได้ สำหรับเจ๊เมาธ์แล้ว...เจ๊มองว่าราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารน่าสนใจสะสมมากค่ะ เพราะนอกจากราคาหุ้นที่ตํ่ากว่ามูลค่าทางบัญชี ค่า P/E ในระดับตํ่าแค่ 5-6 เท่า ทำให้หุ้นแต่ละตัวก็ดูดีมากๆ ใครที่อยากได้หุ้นดีมีปันผลก็ไม่ควรพลาดค่ะ ของดีราคาถูกแบบนี้มีไม่บ่อยค่า
 

     >> SAWAD กับ MTC เป็นหุ้นลีสซิ่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบและนำมาพูดถึงคู่กันมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นทั้งสองตัวมีการแข่งขันกันในเรื่องราคาหุ้นหน้ากระดานอยู่กลายๆ ซึ่งด้วยเรื่องของพื้นฐานหุ้นที่ใกล้เคียงกัน...อย่างค่า P/E ที่ทาง SAWAD อยู่ที่ 16.68 เท่า ส่วนทาง MTC อยู่ที่ 23.04 เท่า มูลค่าหุ้นทางบัญชีของ SAWAD อยู่ที่ 15.68 บาท และ MTC อยู่ที่ 8.48  บาท กรณีนี้ดูเหมือนกับว่าทาง SAWAD จะดูดีกว่า แต่ถ้ามองไปที่รายได้และกำไร...ก็จะเห็นว่าครึ่งแรกของปี 2563 ของ SAWAD อยู่ที่ 5,412 ล้านบาทกำไรอยู่ที่ 2,015 ล้านบาท แต่ในส่วนของ MTC รายได้และกำไรอยู่ที่ 7,105 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 2,503 ล้านบาท ในส่วนนี้ก็ดูเหมือนว่าทาง MTC จะเหนือกว่า และถ้ามองไปที่จำนวนสาขาจะเห็นว่าในปัจจุบัน MTC มีจำนวนสาขาเท่ากับ 4,568 สาขา ในขณะที่ทาง SAWAD มีจำนวนสาขาเท่ากับ 4,210 สาขา ซึ่งในกรณีนี้ทาง MTC ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าอีกเช่นกัน ดังนั้นจะรักจะชอบบริษัทไหนก็ได้ทั้งนั้นนะคะ เพราะสำหรับเจ๊...เจ๊มองว่าปีนี้เป็นปีทองของหุ้นลีสซิ่งค่ะ ทั้งสองตัว...จะตัวไหนก็ได้ “ได้หมดถ้าสดชื่น” อยู่แล้วค่า
 

     >> หุ้นน้องใหม่ที่ชื่อว่า บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป หรือ IIG ของ สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ กลายเป็นหุ้นตัวแรกที่สร้างปรากฎการณ์ด้วยการวิ่งชนราคาซิลลิ่ง (200%) ซึ่งไม่ได้เห็นในตลาดหุ้นไทยมานานหลายปี ล่าสุดราคาหุ้นก็พึ่งจะวิ่งขึ้นไปใกล้จุดสูงสุดที่ 24.40 บาท (ราคาสูงที่สุด = 24.90 บาท) ได้อีกแล้วนะคะ สาเหตุก็เป็นเพราะว่ามีหุ้น IPO ที่ขายออกมาเพียงแค่ 25 ล้านหุ้นเท่านั้นเองค่ะ และด้วยจำนวนหุ้นที่ว่าก็เลยทำให้มีจำนวนที่ไม่เพียงพอกับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นเล่นง่าย...เล่นสนุกแบบนี้ เสี่ยสมชายก็เลยฝากมาบอกว่า....ถ้าอยากได้หุ้นก็ต้องไปซื้อเอาในกระดาน ไม่ต้องไปขอหุ้นหรือเจรจาอะไรให้เสียเวลากันนะคะ ของดีๆ มันต้องกอดเอาไว้นานๆ สิค่ะ อิอิอิ