Ant IPO จะเป็นหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

บนกระดานหุ้นน้องใหม่ Ant Group เป็นกลุ่มธุรกิจฟินเทคของค่ายอาลีบาบา (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Ant Financial) มีธุรกิจหลักเกี่ยวกับการชำระเงิน e-payment และ e-wallet การให้เงินกู้ออนไลน์ ฯลฯ ที่รู้จักกันดีในแอพ Alipay มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนสูงสุดกว่าร้อยละ 55 (โดยอันดับสองคือ Wechat Pay) และมีผู้ใช้กว่า 700 ล้านคน 

บริษัท Ant Group เป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์น ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าล่าสุดประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นที่คาดการณ์ว่าหุ้น IPO ของบริษัทฯ จะมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์คือแซงหน้าหุ้น IPO ของบริษัท Saudi Aramco ที่มีมูลค่า 29 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งจากข้อมูลของ Bloomberg การเสนอขายหุ้น IPO นี้จะทำให้มูลค่าของ Ant Group เพิ่มไปถึงกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระดานหุ้นน้องใหม่สุดแต่มาแรง

สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัท Ant Group เพิ่งได้รับอนุมัติแบบค่อนข้างรวดเร็วให้สามารถเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดที่ไม่ใช่ทั้งตลาด Nasdaq หรือกระดานหลัก เอ แชร์ หากแต่เป็นกระดาน STAR Board ซึ่งเป็นกระดานหุ้นน้องใหม่สุดของจีนที่มีอายุเพียงปีกว่าแค่นั้น กระดานหุ้น STAR Board นี้อาจเรียกคร่าวๆ ว่าเป็นกระดาน Nasdaq ของจีน ได้รับการจัดตั้งขึ้นมาโดยรัฐบาลจีนเพื่อเป็นมาตรการรองรับต่อการที่สหรัฐมีท่าทีกีดกันบริษัทจีนที่ไปเสนอขายหุ้นที่ตลาด Nasdaq และเพื่อเป็นการส่งเสริมบริษัทเทคโนโลยีของจีนให้มีการระดมทุนกันเองในประเทศได้  

กระดานหุ้น STAR Board นี้ ถึงแม้มีอายุน้อยมาก แต่ในปีนี้มีการระดมทุน IPO ไปแล้วเป็นเม็ดเงินสูงถึง 19 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นอันดับสามในโลก เป็นรองจากตลาดหุ้นนิวยอร์คและตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งอยู่ที่ราวแห่งละ 29 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่แซงหน้าตลาดหุ้นฮ่องกงและกระดานหลัก เอ แชร์ของจีนเอง แต่ถ้านับหุ้น IPO ขนาดมหึมาที่น่าจะเกินกว่า 30 พันล้านเหรียญสหรัฐของ Ant Group ที่กำลังจะเข้าตลาดแล้ว กระดานหุ้น STAR Board อาจก้าวขึ้นมาเป็นกระดานหุ้นที่มูลค่าหุ้น IPO สูงสุดในปีนี้ 

จริงอยู่ที่ปีนี้ประเทศในฝั่งตะวันตกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคโควิด 19 แต่ในระยะยาวแล้วความขัดแย้งระหว่างจีนสหรัฐ กำลังผลักดันให้กระดานหุ้น STAR Board เป็นกระดานที่นักลงทุนต่างชาติไม่อาจละเลยได้ 

อนึ่ง หุ้น Ant Group จะจดทะเบียนที่ฮ่องกงด้วย เป็นลักษณะ dual listing และก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้เขียนเชื่อว่า อนาคตของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคจะไม่หายไปง่ายๆ ตราบใดที่ประเทศจีนยังควบคุมบัญชีทุนอยู่

มิติใหม่ของสงครามการเงินจีนสหรัฐ

สิ่งที่น่าสังเกตอีกครั้งคือ ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่หุ้น IPO ของบริษัทในเครือเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีน โดยเฉพาะในกลุ่ม BAT (Baidu, Alibaba, Tencent) วิ่งเข้าสู่ตลาดหุ้นในประเทศจีนโดยตรง เหตุผลที่บริษัทเทคของประเทศจีนนิยมไปเสนอขายหุ้น IPO ที่ตลาดข้างนอก (ได้แก่ฮ่องกง หรือ Nasdaq) ก็เพราะตลาดหุ้นจีน เอ แชร์ มีความเข้มงวดเรื่องของการทำกำไร การกำหนดเพดานมูลค่า พีอี ของหุ้น IPO ตลอดจนความต้องการสร้างสถานะความเป็นสากลของบริษัทจีนเอง เงื่อนไขและความจำเป็นเหล่านี้กำลังลดน้อยลงไป 

ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติมีความจำเป็นต้องเรียนรู้โครงสร้างและการพัฒนาในแบบหลากมิติของตลาดทุนจีนเพิ่มขึ้น\

หมายเหตุ : ความเห็นในบทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ผู้เขียนสังกัดอยู่แต่อย่างใด ผู้อ่านสามารถแสดงความเห็นได้ที่ facebook: manop sangiambut

เกี่ยวกับผู้เขียน : มาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนและการเงินในประเทศจีนกว่า 15 ปี ในอดีตเคยเป็นนักวิเคราะห์หุ้นจีน เอ แชร์ และข้าราชการกระทรวงการคลัง จบการศึกษาปริญญาตรีด้านสารสนเทศการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญโท MBA จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้ เมลล่อน สหรัฐอเมริกา