เสียงเล็กๆ ‘อสม.’ ปลุกคนไทยสกัดโควิด

23 ก.ย. 2563 | 09:10 น.

เสียงเล็กๆ ‘อสม.’ ปลุกคนไทยสกัดโควิด : คอลัมน์อินไซด์สนามข่าว  โดย  จีรพงษ์  ประเสริฐพลกรัง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,612 หน้า 10 วันที่ 24 - 26 กันยายน 2563

 

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีงานรณรงค์เตรียมความพร้อม “อสม.เฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2” ชื่องานก็ตรงตัว ไม่ต้องแปลความ

 

เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด รอบประเทศไทย และหลายประเทศยังไม่น่าไว้วางใจประกอบกับ “วัคซีน” ยังวิจัยไม่แล้วเสร็จ จึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลจะไม่ไว้ใจกับสถานการณ์ด้วยเช่นกัน

 

ในงานมีตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากทั่วประเทศเดินทางมาจำนวนมาก นับว่าเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดโรคโควิด 19 ในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนได้รับการยอมรับ ยกย่อง ชมเชยทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

 

คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติสนับสนุนค่าตอบแทน ชดเชย เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม.เป็นระยะเวลา 7 เดือน รายละ 500 บาท รวม 3,500 บาท ต่อราย และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องหากเกิดการระบาดระลอกที่ 2 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ สำหรับการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดระลอกที่ 2 อสม.มีบทบาทในการสำรวจสุขภาพจิตของประชาชนในเขตที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือการฆ่าตัวตาย 

 

ในงานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รู้สึกสบายใจว่าอย่างน้อยว่ามีคนของเรากลุ่มหนึ่งเป็นล้านคนที่ร่วมกันทำประโยชน์ให้กับสังคมของเราในเวลานี้ สิ่งที่รัฐบาลเล็งในศักยภาพ คือด้านสาธารณสุข แพทย์พยาบาล แต่ศักยภาพอีกอันหนึ่งที่ตนคำนึงถึงเสมอคือ อสม. หลายประเทศเขาไม่มี แต่ประเทศเรามี และเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราที่ได้ทุกคนที่อาสาสมัครเข้ามาทำงานในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นกลไกสำคัญที่รัฐบาลจะต้องดูแล

 

 

 

“เราจำเป็นจะต้องระมัดระวังและเข้มงวดเหมือนเดิมถึงแม้จะมีการผ่อนคลายไปแล้วก็ตาม แต่กลไกหลักของเราที่สำคัญคือ ในพื้นที่ในท้องถิ่น หมอ แพทย์ พยาบาล และอสม.ที่ถือว่าเป็นด่านหน้า เรา ได้ถูกยกระดับเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุข ดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ซึ่งเขามองว่าประเทศไทยทำได้อย่างไร  

 

ผมก็บอกว่าเพราะเรามี อสม. ถ้าไม่มีพวกเราคงไม่สามารถทำได้ เพราะเรามีคน 70 กว่าล้านคน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การป้องกันการแพร่ระบาด เราทราบดีอยู่แล้วว่าระยะที่ 1 เป็นอย่างไร และสามารถหยุดได้แค่ไหนอย่างไร เราจะประมาทไม่ได้ว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดในระลอกที่ 2 เราจะอยู่เฉยๆ และหยุดการทำงานไม่ได้ รัฐบาลพร้อมจะดูแลและช่วยเหลือในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในโลกใบนี้”

 

เสียงเล็กๆ ‘อสม.’ ปลุกคนไทยสกัดโควิด

 

 

นอกจากนี้ ในงานมีโอกาสได้พูดคุยกับ อสม.ท่านหนึ่ง คือ นางจำรัส ผาสุกจิตต์ อสม. จากจังหวัดสมุดปราการ เล่าถึงการทำงานในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวรู้สึกเหนื่อยที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็มีความรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมให้รอดพ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ไปได้ 

 

ในการลงพื้นที่ นางจำรัส บอกว่า มีการแนะนำให้ชาวบ้านในพื้นที่ กินร้อน ช้อนตัวเอง หมั่นล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอยู่ตลอด 

 

 

 

ขณะเดียวกันยังได้เปิดเผยว่า มีความขาดแคลนทางด้านของอุปกรณ์การแพทย์ หรืออุปกรณ์ ที่ต้องใช้ในการออกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นจำนวนมาก จึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุนในส่วนนี้เยอะๆ เพื่อจะได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน และชาวบ้านในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

 

แถมในตอนท้ายยังฝากให้ประชาชนทั่วไปดูแลรักษาสุขภาพ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลาออกไปทำกิจกรรมภายนอก และล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจมีโอกาสกับมาระลอกที่ 2

 

สำหรับผมแม้เป็นเสียงเดียวของอสม. คนหนึ่งจากล้านคน แต่ก็เป็นสิ่งเตือนใจคนไทยทุกคนไว้ว่า การ์ดอย่าตกเด็ดขาด