มีแต่เรื่องฉาว ยุบทิ้งอคส.เถอะ

18 ก.ย. 2563 | 11:00 น.

มีแต่เรื่องฉาว ยุบทิ้งอคส.เถอะ!! : คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3611 หน้า 6 ระหว่าวันที่ 20-23 ก.ย.2563 โดย...กระบี่เดียวดาย

 

มีแต่เรื่องฉาว

ยุบทิ้งอคส.เถอะ!!
 

     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 31/2563 เรื่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
 

     .. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและแก้ไขข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานขององค์การคลังสินค้า นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรีโดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปลงวันที่ 14 ก.ย.2563
 

     คำสั่งล่าสุดจากนายกฯ ที่ให้ข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ เข้าประจำสำนักนายกฯ ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำกัน ถ้าหากไม่มีความผิดร้ายแรง หรือสงสัยว่าผิดร้ายแรง

     กรณีนี้เด้งเข้าสำนักนายกฯ รายการนี้ ทีมของนายกฯ ไปพบข้อมูลสำคัญ ของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในคราวรักษาการผอ.อคส.ที่เข้าไปเป็นรักษาการ ตั้งแต่เดือนต.ค.2562 และเพิ่งกลับสู่ตำแหน่งเดิมไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อครม.ตั้งผู้อำนวยการอคส.คนใหม่
 

     ช่วงปลายที่อยู่ระหว่างรักษาการ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ทำดีลใหญ่มูลค่างาน 1.12 แสนล้าน จัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่องส่งมอบภายใน 2 ปี จากบริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ที่มี นายธณรัสย์ หัดศรี เป็นกรรมการผู้จัดการและเป็นผู้ลงนามในสัญญากันไปเมื่อ 31 ส.ค.2563
 

     ดูเผินๆ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร เมื่อองค์การคลังสินค้าอยากทำธุรกิจค้าๆ ขายๆ
 

     ถ้าหากไม่พบว่าดีลนี้เป็นดีลใหญ่ระดับมูลค่าแสนล้าน ซึ่งอย่าว่าแต่ได้รับอนุมัติจากบอร์ดอคส.เลย ดีลระดับนี้ต้องเสนอรัฐมนตรีพาณิชย์ในฐานะผู้รักษาการ ตามกฎหมายพ.ร.บ.องค์การคลังสินค้า นำเรื่องนี้เข้าไปเสนอขออนุมัติต่อครม.
 

     เรื่องมันคงไม่กลายเป็นประเด็นใหญ่โต ถ้าในดีลนี้ ไม่มีการเห็นชอบในการจ่ายเงินล่วงหน้าวงเงิน 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 วันนับแต่ลงนามในสัญญา    ซึ่งมีการจ่ายโอนเงินออกไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2563 โดยรักษาการผู้อำนวยการอคส.ใช้บัญชีกระแสเงินสดของอคส.ที่เป็นเงินอายัด อันเนื่องมาจากคดีข้าวถุงที่คดียังไม่สิ้นสุด
 

     พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อ้างว่าที่กล้าลงนามสัญญาและจ่ายเงินออกไป 2 พันล้าน นั้นยึดหลักตามกฎหมายพระราชกฤษฎาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 มาตรา 26 ซึ่งให้อำนาจเต็ม ผอ.อคส.สามารถทำงานได้
 

     มาตรา 26 ระบุว่า  ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อำนวยการเป็นตัวแทนขององค์การ และเพื่อการนี้ผู้อำนวยการอาจมอบให้บุคคลใด ๆ ปฏิบัติกิจการบางอย่างแทนในเมื่อคณะกรรมการกำหนดไว้ในข้อบังคับว่าให้ปฏิบัติแทนกันได้นั้นก็ได้
 

     ในกรณีที่มีข้อบังคับซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา 17 วรรคท้าย กำหนดไว้ว่านิติกรรมใด ผู้อำนวยการจะทำได้ก็แต่โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการก่อน นิติกรรมนั้น ผู้อำนวยการทำขึ้นโดยมิได้รับความเห็นชอบดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันองค์การ เว้นแต่คณะกรรมการจะได้ให้สัตยาบัน
 

     แถมยังบอกว่าอำนาจผอ.อคส. ซึ่ง ในกฎหมายให้ปฏิบัติตามในข้อบังคับ แต่ข้อบังคับออกมาโดยไม่ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาเท่ากับไม่มีผล จึงใช้อำนาจตามมาตรา 26

     ไปดูข้อบังคับที่ รักษาการผอ.อคส.ขณะนั้นเห็นว่าไม่ต้องปฏิบัติเพราะไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ระบุว่าอคส.จะจัดซื้อจัดจ้างวงเงินไม่เกิน 25 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจ ผอ.อคส.ลงนาม วงเงิน 25-50 ล้านบาทให้ประธานบอร์ดอคส.ลงนาม, และหากเกิน 50 ล้านบาทที่ประชุมบอร์ด อคส.พิจารณาให้ความเห็นชอบ
 

     ไหนๆ จะอ้างข้อกฎหมายกันแล้ว ต้องกลับไปดูเทียบเคียงด้วยว่าหากอคส.จะกู้เงินระดับ 100 ล้านนี่ต้องขออนุมัติจากครม.แต่นี่มันเป็นการจ่ายเงินสดออกไป 2 พันล้าน จากดีลแสนล้าน
 

     รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ระดับทุนและรายได้เป็นล้านล้านอย่างปตท.ทำดีลระดับนี้ ยังไม่กล้าเดินตามลำพัง ต้องเสนอบอร์ด รัฐมนตรีกำกับดูแลและครม.
 

     ไม่ใช่กล้าหาญ แต่เรียกได้ว่าถึงขั้นบ้าบิ่นเลยทีเดียวในการทำดีลนี้ของรักษาการผอ.อคส. โดยเฉพาะการจ่ายเงินสดล่วงหน้าไป 2 พันล้าน ซึ่งต้องถามว่าได้ตรวจเช็กประวัติคู่สัญญามีหลักมีฐานชัดเจนหรือไม่เพียงใด แผนธุรกิจระดับแสนล้านมีความชัดเจน มีขั้นตอนมากน้อยเพียงใด ได้ตรวจสอบคู่ค้าลงไปในรายละเอียดหรือไม่ มีความเข้าใจซัพพลายและดีมานด์ตลาดถุงมือยางเพียงพอหรือไม่
 

     ระดับกำลังการผลิตเป็น 400-500 ล้านกล่องขนาดนี้ ยักษ์ใหญ่อย่างศรีตรังที่มีกำลังผลิตระดับต้นๆ ของประเทศยังต้องใคร่ครวญในการรับออเดอร์
 

     ได้ใช้ความรอบคอบในการตรวจสอบว่า มีการแต่งออเดอร์เทียม ทำซัพพลายลมเพื่อเบิกเงินล่วงหน้าจากหลวงหรือไม่
 

     เป็นอีกประเด็นที่มีข้อกังขาในการทำงานของอคส. จากที่ก่อนหน้านี้มีแต่เรื่องฉาวๆ มาโดยตลอดในคราวจำนำข้าว
 

     โปรดย้อนกลับไปดูอคส.โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง เพื่อค้าๆ  ขายๆ สินค้าเกษตร อุปโภค บริโภค เป็นกลไกช่วยเหลือรัฐในการทำงานแทรกแซงสินค้าเกษตร อุปโภค บริโภค เป็นครั้งคราว
 

     หาใช่การเก็งกำไรกินส่วนต่างซื้อมา-ขายไปไม่
 

     ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ อคส.มีบาดแผลฉาวๆ จากคดีจำนำข้าว ที่ขณะนี้คดียังอยู่ในศาลปกครอง คดียังอยู่ในศาลแพ่ง 700-800 คดีในการฟ้องร้องเอาผิด โรงสี เจ้าของโกดัง เซอร์เวเยอส์ เป็นคดีซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ที่ฟ้องร้องเรียกคืนความเสียหายอันเกิดจากความบกพร่องไม่รักษาคุณภาพข้าวตามสัญญา ซึ่งต้องสู้เต็มที่
 

     เพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่รัฐเสียหาย ไม่ใช่ปล่อยการ์ดตก ตัดสินทีใดแพ้คดีทุกรอบ ที่ผ่านมาอคส.ได้ทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข้อต่อสู้เต็มที่หรือไม่ ต้องทำให้จริงจัง ไม่ให้ถูกครหาว่าเกี้ยเซี้ยะให้เรื่องมันจบๆ
 

     มีแต่เรื่องฉาวๆ ในอคส.ไม่รู้จักจบสิ้น
 

     บางทีการยุบอคส.ทิ้ง อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดก็ได้