เตือนแบงก์ อย่าทิ้งลูกค้า พากันจมน้ำตาย

16 ก.ย. 2563 | 05:00 น.

เตือนแบงก์ อย่าทิ้งลูกค้า พากันจมน้ำตาย : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3610 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ย.2563 โดย...กาแฟขม

 

เตือนแบงก์ อย่าทิ้งลูกค้า พากันจมน้ำตาย
 

     **** ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3610 วันที่ 17-19 กันยายน 2563 กาแฟขมรายงานตัว ผู้อ่านที่รักเคารพทุกท่าน  ในโหมดที่ยังคงครั่นคร้ามกับโรคโควิด-19 ที่หวั่นๆ ว่าจะมาอีกระลอก เมื่อเพื่อนบ้านรอบทิศติดโควิดกันไปทั่ว วันก่อนพม่าประกาศล็อกดาวน์กรุงย่างกุ้งไปแล้ว จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงลิ่วเป็นรายวัน ถัดมาไม่กี่วันมาเลเซียก็พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในรัฐเคดาห์ ตรงข้ามด่านสะเดา จ.สงขลา ที่ซึ่งปกติทั้งคนไทยและมาเลย์เข้า-ออก ไปมาวันละหลายพันคน ก็จำต้องปิดด่านลงเช่นกัน เพื่อให้ทุกอย่างเคลียร์กันชัดเจนก่อนกลับมาเปิดใหม่ แต่มันสะท้อนให้เห็นว่า โรคมันสุ่มเสี่ยงเข้ามาแน่ในช่องทางธรรมชาติ จากชายแดนด้านต่างๆ  ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดกวดขันสกัดกั้นให้ถึงที่สุดก่อน ขออย่าให้ลุกลามบานปลายรอบ 2 รุนแรงขึ้นมาเลย เพราะผลพวงจากรอบแรกมันไม่ไหวแล้ว
 

     **** วันก่อนวงประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและร่วมกับคู่เจรจา มีทั้ง สหรัฐ รัสเซีย จีน พี่เบิ้มทั้งนั้น สหรัฐกับจีนใส่กันนัวว่าด้วยทะเลจีนใต้ ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ค่อนข้างตึงเครียดอยู่แล้วตั้งแต่สงครามการค้าที่สาดใส่กัน แบนกันไปแบนกันมา โดยไม่สนใจใคร แน่นอนสหรัฐเองก็ต้องการมีบทบาทในย่านนี้เดิมพันด้วยผลประโยชน์มหาศาล จีนก็ย่อมไม่ลดราวาศอกอยู่แล้วในการเป็นพี่ใหญ่ของภูมิภาค ไทยและอาเซียนจำต้องวางบทบาทให้ดี ในการรักษาดุลยภาพแห่งภูมิภาค โดยเฉพาะไทยที่เป็นจุดยุทธศาสตร์และที่ตั้งในภูมิศาสตร์สำคัญทางการทหารและความมั่นคงของภูมิภาคนี้ จะเทเอียงวางเดิมพันทิ้งน้ำหนักข้างใดข้างหนึ่งจนเกินงาม ก็มีโอกาสเสียมากกว่าได้ ทุกฝ่ายของไทยจำต้องมาวางยุทธศาสตร์ร่วมกันให้ถ้วนถี่ เอาแค่ให้พอดี แต่ไม่รู้จะพอดีอยู่ได้หรือไม่ คงต้องรวมพลังกับอาเซียนให้แน่นเหนียวพูดเป็นเสียงเดียวกันจึงจะเอาอยู่งานนี้

     **** พิษโควิด-19 เล่นงานซะงอมพระรามเศรษฐกิจไทย แว่วว่าหนี้ก้อนใหญ่จะกลายเป็นหนี้เสียบานเบอะ จนธนาคารแทบจะรับไม่ไหว ตรวจเนื้อในกันจริงๆ ได้ยินว่าพอจะรับตัวเลขหนี้เสียกันได้แค่ 10% เท่านั้น ต้องเตรียมการรับมือกันเนิ่นๆ แบงก์เองก็ต้องดูแลลูกค้าใกล้ชิด ประเภทกลัวตายก่อน รีบชักเรือหนีจนลูกค้าไม่สามารถมีเงินไปทำมาหากินได้ ลูกค้าก็ตายหมด แบงก์ก็อยู่ไม่ได้ ก็ต้องตายตาม โจทย์ใหญ่โจทย์ยักษ์ “รัฐบาลประยุทธ์” และ “ขุนคลังคนใหม่” ที่ยังอยู่ระหว่างการทาบทาม หาตัวจริงยังไม่ได้ ระหว่างนี้ใช้กลไกบริหารศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากพิษโควิด (ศบศ.) ไปพลางๆ ว่าแต่อย่าเชื่องช้าและกลัวกระแสจนเกินงาม ไม่ใช่เรื่องที่ผ่านศบศ.ไปแล้ว เมื่อไปถึงครม.ให้กลับไปดูใหม่ย้ำไปย้ำมาเพื่อความถี่ถ้วนรอบคอบอะมันดี แต่ปัญหาตามมาเมื่อเม็ดเงินไม่ลง รากหญ้าก็แห้งเหี่ยวตายซาก
 

     **** เศรษฐกิจเหี่ยวเพียงไหน ดูจากตัวเลขการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักก็รู้ สรรพากร สรรพสามิตร ศุลกากร รีดกันไม่รู้จะอย่างไรแล้ว แต่ยังหลุดเป้าในงวด 9 เดือนปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่ ก.ย.62-มิ.ย.63 พลาดเป้าไป 3.41 แสนล้านบาท ไม่นับรวมพิษล็อกดาวน์ที่ส่งผลเต็มรูปในงวดสุดท้าย ก.ค.-ก.ย.63 ว่ากันว่าจะพลาดเป้าไปไกลโข แล้วจะทำอย่างไรก็ต้องกู้ เพื่อโปะงบประมาณที่ขาดดุล เมื่อจัดเก็บหลุดเป้าก็ต้องกู้เพิ่ม คราวนี้เมื่อไปดูที่วางวงเงินกู้ไว้แล้วเพื่อรองรับผลกระทบโควิดที่ผ่านมา แล้วนำมารวมกัน ต้องไม่เกินกรอบวินัยทางการเงินการคลังที่เหมาะสมที่ให้ไว้ 60 %ของ GDP ในคราวออกพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านก็คำนวณกันแล้วว่าอยู่ที่ 57% ของจีดีพีซึ่งก็ปริ่มๆเต็มที ถ้าอนาคตเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นต้องกู้เพิ่ม ต้องทะลายกรอบวินัยการเงินการคลังที่เหมาะสม แม้จะทำได้แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ยักษ์ที่ต้องชี้แจงกันยกใหญ่แน่นอนและจะพัวพันไปถึงเรื่องอื่นทั้งความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งค่าเงินอัตราแลกเปลี่ยน
 

     **** ระทึก 19 ก.ย.2563 เมื่อกลุ่มเยาวชนปลดแอกนัดชุมใหญ่ ทวงถาม “หยุดคุกคามประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา” ก่อนมาถึงวันนี้มีเวทีในต่างจังหวัดที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โถมเข้าหารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่าด้วยเรื่องสืบทอดอำนาจ ใช้อำนาจเกินขอบเขต หวังว่าพลังของคนหนุ่มสาว จะจำกัดข้อเรียกร้องไม่ให้เกินจากนี้ ที่มีความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว และรัฐเองต้องไม่ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นชนวนนำไปสู่ความรุนแรงที่สังคมไม่พึงปรารถนา และเป็นการปะทะห้ำหั่นที่มีบทเรียนให้เห็นกันในอดีต ที่มีการปลุกระดมคนแบ่งฝักฝ่ายจับอาวุธเข้าหากัน ล้อมปราบ จับกุม คุมขัง สังคมไม่ควรสูญเสียชีวิตเลือดเนื้ออันเนื่องมาจากความคิดต่าง
 

     **** ประเมินกันว่าการออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่รอบนี้ไม่น่าจะถึงน็อค แต่อาจจะถึงนับ หากรัฐบาลบริหารจัดการสถานการณ์ไม่เหมาะสม ยั่วยุ อันที่จริงรัฐบาลก็พยายามปลดล็อกทีละเงื่อนไข เพื่อหวังให้สถานการณ์เบาลง แต่ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ความจริงใจในการรับฟังและแก้ปัญหา ไม่ได้คิดแบบโลกสวย แต่ยังหาทางออกร่วมกันได้ เพียงแต่ขุมพลังต่างๆต้องไม่ผสมโรงให้สถานการณ์หวาดเสียวเลวร้ายหนักขึ้น ขอให้ประเทศผ่านพ้นโพยภัยด้วยเทอญ